- ลงทุนหุ้นใหญ่ดีจริงหรือไม่? - February 20, 2022
- รีวิวผลตอบแทน 40 กลยุทธ์การลงทุนในตลาดหุ้นไทยของเดือนมกราคมปี ค.ศ. 2022 - February 7, 2022
- รีวิวผลตอบแทน 40 กลยุทธ์การลงทุนในตลาดหุ้นไทยปี ค.ศ. 2021 - January 5, 2022
วิธีการค้นหาหุ้น Super Stocks ของ Kenneth Fisher นั้นนอกจะช่วยให้คุณหาหุ้นที่ให้ผลตอบแทนสูงถึงราวๆ 25% – 100% ต่อปีแล้ว !! ยังช่วยลดความผิดพลาดจากการลงทุนในหุ้นที่ผิดตัวอีกด้วย
โดยหุ้นเหล่านี้นอกจากจะต้องมีการเติบโตของกำไรอย่างแข็งแกร่งแล้ว เมื่อเราทำการเปรียบเทียบราคาของหุ้นกับรายได้หรืออัตราส่วน Price-to-Sales Ratio (PSRs) ยังต้องมีความสมเหตุสมผลกันอีกด้วย (หรือราคาไม่แพงเกินมูลค่า)
ซึ่งในบทความนี้เราจะมาเปิดเผยวิธีการค้นหาหุ้น Super Stocks ของ Fisher และนำหลักการลงทุนของเขามาสร้างเป็นระบบการลงทุน รวมถึงทดสอบกับตลาดหุ้นไทยเพื่อให้เพื่อนๆพี่ๆน้องๆนักลงทุนได้เห็นถึงประสิทธิภาพของแนวคิดในการลงทุนของเขา ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมานั้นถือว่ามีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง โดยจะเป็นอย่างไรนั้น สามารถตามไปอ่านกันในบทความได้เลยครับ!
ทำความรู้จักกับ Kenneth Fisher
หลายๆคนเห็นชื่อสกุลของ Kenneth Fisher ก็อาจจะพอคุ้นเคยกันดีอยู่บ้าง เพราะเขาเองนั้นเป็นลูกชายของ Philip Fisher ซึ่งถือเป็นหนึ่งในบิดาของการลงทุนในหุ้นเติบโต (Growth Stock) ผู้แต่งหนังสือหุ้นสุดคลาสสิค Common Stocks and Uncommon Profits ที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับแนวทางการลงทุนของ Warren Buffett นั่นเองครับ!!
โดย Kenneth Fisher นั้นถือเป็นหนึ่งในเศรษฐีนักลงทุนชาวอเมริกันที่มีสินทรัพย์มากกว่าพันล้านดอลล่าร์ (Billionnaire) รวมถึงเป็นผู้ก่อตั้งและประธานของ Fisher Investment ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้คำปรึกษาด้านการลงทุน โดยปัจจุบัน Fisher Investment มีสินทรัพย์ที่บริหารจัดการอยู่มากกว่า 110,000 ล้านดาลลาร์สหรัฐ และช่วยบริหารงานลงทุนให้ครอบครัวมากกว่า 68,000 ครอบครัวได้บรรลุเป้าหมายทางการเงิน
ภาพที่ 1 : ภาพ Kenneth Fisher
นอกจากนี้ Fisher ยังติดอันดับคนที่รวยที่สุด 400 คนจากนิตยสาร Forbes (The Forbes 400 หรือ 400 Richest Americans) ซึ่งตัวเค้าเองมีสินทรัพย์อยู่ถึงราวๆ 4.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
โดยในส่วนถัดไปนั้นเราจะไปศึกษาแนวคิดการลงทุนของ Fisher กันครับว่าอะไรที่ทำให้เค้าสามารถเป็นหนึ่งในผู้ให้คำแนะนำด้านการลงทุนที่มีอิทธิพลมากที่สุดในยุคนี้
ภาพที่ 2 : Ken Fisher และพ่อของเขา Philp Fisher ผู้แต่งหนังสือหุ้นสุดคลาสสิค Common Stocks and Uncommon Profits ที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับแนวทางการลงทุนของ Warren Buffett
แนวคิดการค้นหาหุ้น Super Stocks ของ Kenneth Fisher
สำหรับแนวคิดการลงทุน Kenneth Fisher ที่ถูกเผยแพร่ในหนังสือ Super Stock นั้นจะเน้นไปที่การพิจารณาอัตราส่วน Price-to-Sales Ratio (PSRs) ซึ่งเป็นอัตราส่วนยอดขายต่อหุ้น โดยยิ่งอัตราส่วนนี้ต่ำก็หมายถึงว่าราคาหุ้นปัจจุบันเมื่อเทียบกับยอดขายที่บริษัททำได้นั้นถือว่ามีความคุ้มค่าน่าลงทุน
ภาพที่ 3 : ภาพหนังสือ Super Stocks ของ Ken Fisher
เนื่องจาก Fisher พบว่าการพิจารณาจากกำไร (Earnings) นั้นแม้กระทั่งบริษัทที่ดีก็ยังมีความแปรปรวนในแต่ละปีขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น วิธีการบันทึกบัญชี, การเพิ่มสิทธิประโยชน์ต่างๆให้แก่บุคลากร รวมถึงการเพิ่มงบประมาณในการวิจัย เป็นต้น จึงเป็นเหตุให้กำไรนั้นบอกอะไรไม่ได้มาก แต่รายได้ (Sales หรือ Revenue) นั้นเป็นตัวบ่งชี้ความแข็งแกร่งของบริษัทได้ดีกว่า ดังนั้น Fisher จึงมองหาหุ้นที่มีอัตราส่วน PSRs ในอัตราส่วนที่ต่ำนั่นเอง
Price to Sales Ratio = ( ราคาของหุ้น * จำนวนหุ้นที่จดทะเบียน ) / รายได้ในรอบ 12 เดือน
นอกจากนี้แล้ว Fisher ยังพิจารณาถึงอัตราการเติบโตของผลกำไรที่แข็งแกร่ง (Strong Earnings Growth) , มีอัตราส่วน Profit Margins ที่สูง รวมถึงมีหนี้สินในระดับที่ต่ำ ซึ่งสามารถสรุปเป็นเงื่อนไขสำหรับการคัดกรองหุ้นได้ ดังนี้
- อัตราการเติบโตของ EPS แบบรายปีเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปีมีค่ามากกว่า 15%
- อัตราส่วน Price-to-Sale Ratio (PS Ratio) มีค่ามากกว่า 0 (ป้องกันหุ้นที่มีรายได้ติดลบ)
- การคัดกรองอัตราส่วน PS Ratio
- ในกรณีหุ้น Defensive Stock หรือหุ้นที่ไม่ผันผวนตามตลาดนั้น (วัดโดยมีค่า Beta ในรอบ 1 ปีน้อยกว่า 1 ) จะต้องมีอัตราส่วน (PS Ratio) น้อยกว่า 3
- ในกรณีหุ้น Cyclical Stock หรือหุ้นที่มักจะผันผวนตามตลาดนั้น (วัดโดยมีค่า Beta ในรอบ 1 ปีมากกว่า 1 ) จะต้องมีอัตราส่วน (PS Ratio) น้อยกว่า 0.8
- อัตราส่วน Debt to Equity Ratio น้อยกว่า 40
- ค่า Free Cash Flow Per Shares ต้องมากกว่า 0 (คำนวณจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงานหักลบด้วยเงินปันผลที่จ่ายออก)
- ค่าเฉลี่ยของ Pre Tax Profit Margin 3 ปีต้องมีค่ามากกว่า 15%
- ไม่ลงทุนในหุ้นกลุ่ม Financial
โดยรายละเอียดเงื่อนไขและผลลัพธ์การทดสอบจะเป็นเช่นไรนั้น เราไปติดตามกันเลยครับ ^^
รายละเอียดการทดสอบ
ตารางที่ 1 : ตารางแสดงเงื่อนไขสำหรับการทดสอบกลยุทธ์การค้นหาหุ้น Super Stocks ของ Kenneth Fisher
หมายเหตุที่ 1 : เนื่องจากเงื่อนไขการคัดกรองของ Fisher นั้นค่อนข้างเข้มงวดทำให้เรากำหนดน้ำหนักการลงทุนที่ 10% เพื่อให้กลยุทธ์ได้แสดงประสิทธิภาพในการคัดกรองหุ้นที่แท้จริงออกมา
ผลลัพธ์การทดสอบ
ผลลัพธ์การทดสอบหลักการ ค้นหาหุ้น Super Stock ของ Kenneth Fisher กับตลาดหุ้นไทยตั้งแต่ปี 2000 จนถึงปัจจุบัน (30/04/2020) รวมระยะเวลากว่า 20 ปีมีผลลัพธ์ดังนี้
ภาพที่ 4 : ภาพแสดงผลตอบแทนของกลยุทธ์การค้นหาหุ้น Super Stocks ของ Kenneth Fisher (เส้นสีเขียว) เปรียบเทียบกับดัชนี SET Index (เส้นสีดำ)
ตารางที่ 5 : ตารางแสดงค่าสถิติของระบบการลงทุนกลยุทธ์การค้นหาหุ้น Super Stocks ของ Kenneth Fisher และดัชนี SET Index
จากภาพและตารางข้างต้นจะสังเกตได้ว่า กลยุทธ์การลงทุน Kenneth Fisher นั้นให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าดัชนี SET Index ในระยะยาวอย่างมีนัยยะ โดยมีอัตราส่วน CAGR เท่ากับ 11.16% และ 4.98% ตามลำดับหรือมีผลตอบแทนส่วนเกินที่สูงถึง 6.18% ต่อปี
ซึ่งประเด็นที่น่าสนใจก็คือ ลักษณะการเติบโตของพอร์ตโฟลิโอที่มีการเติบโตที่ค่อนข้างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงระยะเวลาที่ตลาดหุ้นไทยเป็นช่วง Flat Time หรือ Sideway นานๆ เช่น ในปี 2004-2007 โดยกลยุทธ์ของ Kenneth Fisher นั้นยังคงสามารถที่จะสร้างผลตอบแทนได้เหนือตลาดได้เช่นกัน ซึ่งเป็นอีกหลักฐานยืนยันที่แสดงให้เห็นว่าการเลือกลงทุนในหุ้นที่มีการเติบโต (Growth Stock) และราคาต่ำมูลค่า (Undervalued Stock) อย่างเป็นระบบนั้น สามารถทำให้นักลงทุนได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่าตลาดนั่นเอง
นอกจากนี้หากพิจารณาค่าเฉลี่ยกำไรต่อการซื้อขายพบว่ามีค่าเท่ากับ 19.58% ซึ่งเป็นค่าที่ใกล้เคียงกับหุ้น Super Stock ที่มักจะให้ผลตอบแทนที่ตั้งแต่ราวๆ 25 ถึง 100% อีกด้วย
บทสรุปกลยุทธ์การลงทุน Super Stocks ของ Kenneth Fisher
จากผลการทดสอบเชิงสถิติพิสูจน์ให้เห็นว่ากลยุทธ์การค้นหาหุ้น Super Stock ของ Kenneth Fisher นั้น แม้จะเป็นหลักแนวคิดการลงทุนที่เรียบง่าย แต่ผลลัพธ์ของมันนั้นกลับมีประสิทธิภาพที่สูงเป็นอย่างมาก โดยให้ผลตอบแทนที่ชนะทั้งตลาดหุ้นสหรัฐและตลาดหุ้นไทย
โดยผมหวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์และทำให้เพื่อนๆพี่น้องนักลงทุนสามารถนำแนวคิดไปพัฒนาต่อยอดกลยุทธ์การลงทุนเดิม หรือการนำไปประยุกต์ใช้สร้างกลยุทธการลงทุนใหม่ๆกันนะครับ ซึ่งหากใครที่สนใจฐานข้อมูลราคาหุ้นและงบการเงินแบบ Time-Series ที่เราใช้ในการวิจัยและทดสอบนี้ เพื่อพัฒนาระบบการลงทุนของคุณเองนั้น ก็สามารถคลิ้กที่ SiamQuant AlphaSuite เพื่ออ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้เลยครับ แล้วพบกันใหม่บทความหน้าครับ ^^