📝 Interview Summary & Short Note สรุปบทสัมภาษณ์และ Video Clip เกี่ยวกับแนวคิดในการลงทุนอย่างเป็นระบบ, ความจริงเกี่ยวกับกฎการอย่าขาดทุนของ Warren Buffett และการรับมือกับวิกฤติเศรษฐกิจและการขาดทุนในการลงทุนของ คุณ มด แมงเม่าคลับ ในรายการ Money Plus วันที่ 2022-05-16 ที่ผ่านมา ใครสะดวกอ่านแบบย่อก็อ่านได้ ใครสะดวกดูเป็นคลิปเต็มๆก็ดูกันได้เลยครับ
📝 Interview Agendas :
- วิธีคิดและการรับมือยามเกิดตลาดเกิดภาวะวิตกกังวลอย่างหนัก
- วิเคราะห์หลักคิด”อย่าขาดทุน” ของ วอร์เรน บัฟเฟต
- นักลงทุนเก่งระดับโลก เคยมีการเกิดภาวะผลตอบแทนติดลบระหว่างการลงทุนระยะยาวหรือไม่ เป็นเพราะอะไร?
- การบริหารความเสี่ยงในภาวะวิกฤติของนักลงทุนรายย่อยควรทำอย่างไร?
1. วิธีคิดและการรับมือยามเกิดตลาดเกิดภาวะวิตกกังวลอย่างหนัก
Stop Focusing on Market Prediction :
เลิกวิตกกับการคาดการณ์หรือการพยากรณ์มากจนเกินไป เพราะไม่มีใครคาดเดาตลาดได้ และการคาดเดาตลาดได้อย่างแม่นยำ ก็ไม่ได้จำเป็นในการสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืน หรือการปกป้องความเสียหายของพอร์ตโฟลิโอเลย
Ref : https://www.siamquant.com/you-can-not-predict-but-you-can-beat-the-market/
Focus on what doesn’t change and Stay on Your Noah Ark :
มุ่งความสนใจไปยังสิ่งที่จะไม่เปลี่ยนแปลง และทำตามระบบหรือกลยุทธ์การลงทุน ซึ่งได้รับการพิสูจน์ด้วยกระบวนการทางสถิติและวิทยาศาสตร์แล้วว่ามีความเสถียรยั่งยืนในระยะยาว
“การพยากรณ์ว่าน้ำจะท่วมโลกเมื่อไหร่นั้นไม่สำคัญ ที่สำคัญกว่าคือคุณมีเรือโนอาห์แล้วหรือยัง”
– Warren Buffett
Ref : https://www.siamquant.com/jeff-bezos-focus-on-what-wont-change/
2. วิเคราะห์หลักคิด”อย่าขาดทุน” ของ วอร์เรน บัฟเฟต
Wrong Interpretation & Evidence :
คนส่วนใหญ่ตีความหมายของหลักการ “อย่าขาดทุน” ของบัฟเฟตต์ผิดไปจากความหมายที่แท้จริง ซึ่งยืนยันได้ด้วย Losing Year ของบัฟเฟตต์
Real & Complete Buffett Quotation :
“The first rule of an investment is: Don’t lose. And the second rule of investment is: Don’t forget the first rule. And that’s all the rules there are.
I mean, if you buy things for far below what they’re worth, and you buy a group of them, you basically don’t lose money.”
– Warren Buffett
และเมื่อแปลเป็นภาษาไทยจะได้ใจความดังนี้
“กฎข้อแรกในการลงทุนคือ “อย่าขาดทุน” และกฎข้อที่สองก็คืออย่าลืมกฎข้อแรก และนี่ก็คือกฎสำคัญทั้งหมดของเกมนี้
ผมกำลังหมายความว่าหากคุณซื้อหุ้นในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าของมัน และคุณซื้อหุ้นที่มีลักษณะเหล่านี้พร้อมกันหลายๆตัว โดยปกติแล้วพอร์ตของคุณจะไม่ขาดทุนหรอก!”
– วอเรนต์ บัฟเฟตต์
Secret of “Don’t Lose” Rule :
Buffett พูดถึงหลักการลงทุนในแง่ของ
- การใช้ประโยชน์จาก Value Anomaly
- การใช้ประโยชน์จากหลักความได้เปรียบทางสถิติ Statistical Edge ในการลงทุน
- การใช้ประโยชน์จากกลไกการกระจายความเสี่ยงและโอกาส จากการลงทุนแบบเป็นพอร์ตโฟลิโอ
Ref : https://www.siamquant.com/warren-buffett-first-rule-misconception/
3. นักลงทุนเก่งระดับโลก เคยมีการเกิดภาวะผลตอบแทนติดลบระหว่างการลงทุนระยะยาวหรือไม่ เป็นเพราะอะไร?
All Gurus Have Losing Periods : ช่วงเวลาของการขาดทุนนั้นเคยเกิดขึ้นทุกคนไม่เว้นแม้แต่กับนักลงทุนระดับโลก และยังเกิดขึ้นเป็นช่วงๆอยู่เสมอ เพราะเป็นธรรมชาติของการลงทุนที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
Ref : https://www.siamquant.com/the-greatest-stock-investors-performance-study/
All Gurus Also Have Underperformance Periods : นอกจากการขาดทุนแล้ว นักลงทุนระดับโลกยังต้องเจอกับช่วง Underperformance กันเป็นประจำด้วยเช่นกัน เพราะเป็นธรรมชาติของทุกๆกลยุทธ์การลงทุนที่จะต้องเกิดขึ้นเสมอ โดยที่สุดยอดนักลงทุนในระดับโลกก็ยังต้องเผชิญกับช่วง Under Performance ที่มากราวๆ 30-50% ในการลงทุนเช่นเดียวกัน
Ref : https://www.siamquant.com/underperformance-period/
All Guru And Assets Have Low New High Ratio : ทั้งนี้นั้น สิ่งที่นักลงทุนควรรู้และเข้าใจก็คือ แม้ว่า Portfolio ของเราจะเติบโตขึ้นในระยะยาว แต่ตามธรรมชาติแล้วการเติบโตของ Portfolio จะมีช่วงเวลาในการเติบโตโดยรวมที่ไม่บ่อยนัก โดยมักมี New High Days Ratio ที่ราว 10% ของช่วงเวลาในการลงทุนทั้งหมดที่เราลงทุนอยู่ เราจึงต้อง “รอให้เป็น” โดยมีความเข้าใจเกี่ยวกับธรรมชาติของกลยุทธ์การลงทุนของเราอย่างถ่องแท้
Ref : https://www.siamquant.com/stock-investing-new-high-days-inspired-by-dhanin-chearavanont/
- การบริหารความเสี่ยงในภาวะวิกฤติของนักลงทุนรายย่อยควรทำอย่างไร?
Manage Your Mind :ทำใจก่อนเป็นอันดับแรก
- หากพอร์ตยังไม่เสียหายมาก และรู้สึกนอนไม่หลับหรือกระวนกระวายใจอยู่ตลอดเวลา นั่นแปลว่าคุณลงทุนหนักเกินความเสี่ยงที่รับไหว ให้ลด Position ลงจนถึงจุดที่คุณสบายใจก่อน
- หากพอร์ตเสียหายมาก ให้ทำใจและเก็บเป็นบทเรียน โดยทำความเข้าใจเรื่อง Asystematic Gain/Loss ว่าเราต้องทำกำไรมากกว่าเก่าเป็นสัดส่วนที่มากขึ้นจากการขาดทุน ดังนั้นหากขาดทุนหนักมาก จะต้องทำกำไรกลับมามากกว่าเดิมเสมอ ดังนั้นหากขาดทุนมากกว่า 50% ต้องทำ 100% กลับคืนมา มันจึงเป็นเรื่องยากมากๆ โดยเฉพาะหากยังใช้กลยุทธ์หรือวิธีการเดิมๆที่นำพาให้เราขาดทุนมาจนถึงในระดับนี้
Manage Your Knowledge :
- ปรับปรุงความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการลงทุนใหม่ โดยเลิกใช้หรือแก้ไขวิธีการลงทุนเดิมๆที่ใช้อยู่ เนื่องจากหากว่ามันเป็นสิ่งที่ถูกต้อง มันจะต้องไม่ควรนำพาเรามาถึงจุดที่เกิดการขาดทุนมากกว่าที่จะรับไหว โดยให้ทำการศึกษาแนวคิดการลงทุนที่ได้แสดงให้เห็นถึง
- ผลตอบแทนที่มีความเสถียรยั่งยืนในระยะยาวมาเป็นเวลาอย่างยาวนาน เพราะเป็นสิ่งพิสูจน์ที่มีความน่าเชื่อในทางสถิติจากระยะเวลาในการลงทุน
- มีนักลงทุนที่สามารถนำไปปรับใช้และประสบความสำเร็จได้ในจำนวนหนึ่งในหลายๆตลาด เพื่อเป็นการยืนยันถึงความเสถียรยั่งยืนของกลยุทธ์ในตลาดหลายๆแห่ง
- กลยุทธ์การลงทุนที่ดีไม่จำเป็นต้องเป็นกลยุทธ์ที่มีความแปลกใหม่ เพราะขาดข้อมูลที่ช่วยยืนยันความน่าเชื่อถือตามหลักสถิติ ในทางกลับกันแล้ว กลยุทธ์ที่เรียบง่ายและธรรมดา แต่สามารถช่วยให้นักลงทุนสร้างผลตอบแทนได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว คือกลยุทธ์ที่ควรสนใจ เพราะเป็นสิ่งที่ได้พิสูจน์ผ่านร้อนผ่านหนาวมาอย่างยาวนานแล้ว จำไว้ว่าความจริงแล้วแม้สถานการณ์จะเปลี่ยน เทคโนโลยีจะเปลี่ยนไป แต่พฤติกรรมของมนุษย์แทบไม่เคยเปลี่ยนไปเลย
Manage Your Portfolio :
หลังจากที่ปรับ Mindset และ Knowledge แล้วจึงกลับมาปรับปรุง Portfolio โดย
- เริ่มต้นทำการลงทุนด้วยกลยุทธ์ใหม่ที่เราได้ทำการศึกษาปรับปรุงจนมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้
- วิธีการแก้พอร์ตที่ดีที่สุดไม่ใช่การแก้ที่ตัวหุ้น แต่เป็นการแก้ที่กลยุทธ์การลงทุน ซึ่งจะส่งผลที่ดีอย่างยั่งยืนในระยะยาว
- อย่าลงทุนโดยแบกรับความเสี่ยงมากจนเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดการขาดทุนอย่างหนักจนกลับเข้าสู่สถานการณ์เดิมๆได้
- คุณไม่จำเป็นต้องเสี่ยงมากเพื่อได้มากเสมอไป คำว่า High Risk – High Return เป็นคำกล่าวสำหรับการพูดถึงธรรมชาติของความผันผวนของสินทรัพย์และผลตอบแทน แต่ไม่ใช่กับการเดิมพันหรือบริหารจัดการพอร์ตโฟลิโออย่างเหมาะสม โดยในการบริหารพอร์ตนั้นควรยึดแนวคิด Optimal Risk – Optimal Return แทน
- การแบกรับความเสี่ยงอย่างเหมาะสม จะช่วยทำให้คุณเข้าไกล้เป้าหมายในการลงทุนของคุณมากที่สุด หากคุณเสี่ยงน้อยไปคุณจะไม่ได้อะไร แต่หากคุณเสี่ยงมากไปคุณอาจเสียทุกอย่างไปด้วยเช่นกัน
Ref : https://www.siamquant.com/diversification-effect/
