- ลงทุนหุ้นใหญ่ดีจริงหรือไม่? - February 20, 2022
- รีวิวผลตอบแทน 40 กลยุทธ์การลงทุนในตลาดหุ้นไทยของเดือนมกราคมปี ค.ศ. 2022 - February 7, 2022
- รีวิวผลตอบแทน 40 กลยุทธ์การลงทุนในตลาดหุ้นไทยปี ค.ศ. 2021 - January 5, 2022
ในบทความนี้เราจะมารีวิวผลตอบแทนของ 40 กลยุทธ์การลงทุนในตลาดหุ้นไทย ที่สร้างขึ้นมาจากแนวคิดของนักลงทุนระดับโลกประจำปี ค.ศ. 2021 ที่ผ่านมากัน
โดยสำหรับในปี 2021 นั้นเป็นปีที่ดัชนี SETTRI Index มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น 17.67% ซึ่งภาพรวมถือว่าตลาดมีแนวโน้มที่เป็นขาขึ้นภายหลังการปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 เมื่อปี ค.ศ. 2020 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม เรากลับพบว่ากลยุทธ์การลงทุนส่วนใหญ่ได้ให้ผลตอบแทนในระดับที่ดีเยี่ยมเหนือกว่าตลาดเป็นอย่างมาก!!
โดยในการรีวิวนี้ผมได้นำ 40 กลยุทธ์การลงทุนใน SiamQuant AlphaSuite ซึ่งกลยุทธ์เหล่านี้ล้วนแล้วแต่สร้างขึ้นมาโดยยึดหลักการแนวคิดของเซียนหุ้นระดับโลก มาเป็นตัวแทน (Proxy) ของกลยุทธ์การลงทุนที่นักลงทุนส่วนใหญ่มักใช้กัน และนำมาทำการทดสอบในตลาดหุ้นไทยให้เพื่อนๆพี่น้องนักลงทุนได้เห็นถึงประสิทธิภาพของกลยุทธ์การลงทุนในแต่ละแนวทางที่แตกต่างกัน ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถที่จะเปรียบเทียบผลตอบแทนของตัวคุณเอง ได้ในมุมมองที่กว้างกว่าเพียงการเปรียบเทียบกับดัชนี SETTRI Index ซึ่งถึงแม้ว่าเป็นดัชนีตัวแทนของผลตอบแทนรวมเงินปันผลในรูปแบบ Market Value-Weighted Index แต่หุ้นที่มีน้ำหนักมากที่สุดเพียง 50 ตัวแรกกลับมีน้ำหนักอยู่ที่ราวๆ 70% ของดัชนีเลยทีเดียว โดยผมหวังว่าจะมีประโยชน์กับนักลงทุนทุกท่านครับ!
40 กลยุทธ์การลงทุนจากแนวคิดของเซียนหุ้นระดับโลก
ภาพที่ 1 : ภาพแสดงเส้น Equity ของกลยุทธ์ทั้งหมดใน SiamQuant AlphaSuite เปรียบเทียบกับดัชนี SETTRI Index (เส้นสีดำ) ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี 2012-01-01 ถึง 2021-12-31
สำหรับการรีวิวผลตอบแทนของกลยุทธ์การลงทุนทั้ง 40 รูปแบบในบทความนี้นั้น ผมได้นำเอากลยุทธ์การลงทุนจากแนวคิดของเซียนหุ้นชื่อดังต่างๆที่ผมและทางทีมงาน SiamQuant ได้เคยวิจัย และเผยแพร่ชุด Code Template เอาไว้ใน SiamQuant Amibroker’s AlphaSuite มาทำการทดสอบถึงผลตอบแทนในตลาดหุ้นไทยกันออกมา โดยที่เราสามารถที่จะแบ่งกลยุทธ์ต่างๆออกเป็น 5 กลุ่มหลักๆ ตามแนวทางและปรัชญาการลงทุนที่แตกต่างกันไปดังต่อไปนี้
- Momentum/Trend Following : แนวคิดการลงทุนที่พิจารณาที่ความแข็งแกร่งและแนวโน้มของราคาหุ้นเป็นหลัก โดยในแต่ละกลยุทธ์นั้นก็จะมีแนวคิดและใช้เครื่องมือทางเทคนิคในการวิเคราะห์ที่แตกต่างกันออกไป อาทิเช่น กลยุทธ์ของ Jesse Livermore, Mark Minervini รวมถึง Mangmao All-Time-High ที่เราเคยได้เผยแพร่เอาไว้
- Growth Investing : แนวคิดการลงทุนที่พิจารณาแนวโน้มการเติบโตของกิจการจากข้อมูลปัจจัยพื้นฐาน โดยจะเน้นลงทุนในหุ้นของกิจการที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง อาทิเช่นกลยุทธ์การค้นหาหุ้น 10 เด้งของ Peter Lynch
- Value Investing : แนวคิดการลงทุนแนวหุ้นคุณค่าที่พยายามหาหุ้นที่มีราคาตลาดต่ำกว่าราคาเหมาะสม (Intrinsic Value) โดยในแต่ละกลยุทธ์นั้นก็จะมีแนวคิดและวิธีการคำนวนราคาเหมาะสมจากข้อมูลปัจจัยพื้นฐานที่แตกต่างกันออกไป อาทิเช่น กลยุทธ์ Buffettology ของ Marry Buffett, NCAV ของ Benjamin Graham หรือ Enterprise Multiple ของ Tobias Carlisle
- Dividend Investing : แนวคิดการลงทุนที่มุ่งเน้นการลงทุนในกลุ่มหุ้นที่ให้เงินปันผลสูง อาทิเช่นกลยุทธ์หุ้นปันผล 10-11-12 ของ Marc Lichtenfeld หรือ Chowder Rule ของ Lowell Miller
- Hybrid Investing : แนวคิดการลงทุนแบบผสมผสาน โดยใช้ทั้งการวิเคราะห์แนวโน้มราคาหุ้นด้วยปัจจัยเทคนิค, การวิเคราะห์แนวโน้มการเติบโตของกิจการ และ การวิเคราะห์ราคาเหมาะสมจากข้อมูลปัจจัยพื้นฐาน โดยในแต่ละกลยุทธ์การลงทุนนั้นก็จะมีแนวคิดการผสมผสานปัจจัยต่างๆที่แตกต่างกันออกไป อาทิเช่น CANSLIM ของ O’Neil, Earning Surprise Breakout ของ Driehaus และ Zulu Principle ของ Jim Slater
ซึ่งเราจะเห็นได้ว่ากลยุทธ์การลงทุนในแนวทางทั้ง 5 นั้น ก็ค่อนข้างที่จะเพียงพอต่อการทำให้เราได้เห็นถึงภาพรวมของผลตอบแทนของนักลงทุนรายย่อยส่วนใหญ่ได้ในระดับหนึ่ง เนื่องจากพวกมันถือได้ว่าเป็นแนวทางหลักๆที่นักลงทุนส่วนใหญ่ในตลาดหุ้นไทยได้นำเอามาปรับใช้กันอย่างกว้างขวางนั่นเองครับ
สถิติผลตอบแทนในภาพรวมของ 40 กลยุทธ์การลงทุนของปี 2021
สำหรับการทดสอบกลยุทธ์การลงทุนต่างๆเพื่อวัดผลตอบแทนในบทความนี้ เพื่อให้ผลลัพธ์นั้นได้สะท้อนถึงข้อจำกัดและสภาพแวดล้อมต่างๆของนักลงทุนส่วนบุคคลหรือรายย่อยในตลาดหุ้นไทยจนเกิดความสมจริงในระดับหนึ่ง ผมจึงได้ทำการทดสอบกลยุทธ์กำหนดเงื่อนไขต่างๆในระดับที่ไม่ได้เข้มงวดมากนัก ดังต่อไปนี้ (Mild Backtesting Restriction & Environment)
Condition | Details |
Backtesting Window |
|
Backtesting Restriction |
|
Universe |
|
Entry |
|
Exit |
|
Filters |
|
Position Size |
|
Position Score |
|
Order Management |
|
ตารางที่ 1 : ตารางแสดงเงื่อนไขสำหรับการทดสอบกลยุทธ์การลงทุนทั้ง 40 ระบบใน AlphaSuite
โดยหลังจากที่เราได้กำหนดเงื่อนไขการทดสอบต่างๆไว้เรียบร้อยแล้วนั้น ผมและทางทีมงาน SiamQuant ก็ได้ค่อยๆไล่ Backtest กลยุทธ์การลงทุนต่างๆใน AlphaSuite กันออกมา จากนั้นจึงนำผลลัพธ์ที่ได้มาทำการคิดผลตอบแทนเฉพาะช่วงปี ค.ศ. 2021 ที่ผ่านมาดังนี้
ภาพที่ 2 : ภาพแสดงเส้น Equity ของกลยุทธ์ทั้งหมดใน SiamQuant AlphaSuite เปรียบเทียบกับดัชนี SETTRI Index (เส้นสีดำ) ตั้งแต่วันที่ 2021-01-01 ถึง 2021-12-31
ภาพที่ 3 : Bar Chart แสดงผลกำไร (Net Profit) ของกลยุทธ์ทั้งหมดใน SiamQuant AlphaSuite เปรียบเทียบกับดัชนี SETTRI Index (เส้นสีดำ) ตั้งแต่วันที่ 2021-01-01 ถึง 2021-12-31
Strategy | Net Profit (%) | Max. DD (%) | Longest DD | Correlation with SETTRI |
SQ Oberweis Octagon | 123.9 | -17.57 | 5.6 | 0.5 |
SQ Minervini Trend template | 111.69 | -12.33 | 2.5 | 0.54 |
SQ CANSLIM (Modified) | 108.09 | -10 | 2.25 | 0.46 |
SQ Tiny Titan | 106.55 | -10.21 | 3.65 | 0.51 |
SQ EdSeyKoTa | 99.17 | -9.6 | 1.15 | 0.38 |
SQ Mangmao ATH | 80.13 | -12.75 | 2.4 | 0.54 |
SQ Elder Triple Screen With Force index (Modified) | 77.49 | -9.52 | 3.5 | 0.51 |
SQ Turtle Trading Signals | 73.1 | -16.05 | 4.35 | 0.36 |
SQ Elder Triple Screen With Force index | 69.9 | -9.47 | 2.65 | 0.4 |
SQ Darvas | 61.76 | -19.23 | 5.7 | 0.38 |
SQ Magic Formula | 60.6 | -6.85 | 3.3 | 0.49 |
SQ Fibo Triple Moving Average | 57.52 | -8.42 | 1.15 | 0.55 |
SQ TenBagger (Modified) | 56.93 | -8.78 | 3.2 | 0.62 |
SQ NCAV Graham | 56.35 | -15.45 | 4.4 | 0.56 |
SQ MACD-ATH | 56.25 | -21.28 | 4.8 | 0.53 |
SQ Livermore | 55.51 | -7.44 | 2.55 | 0.62 |
SQ Enterprise Multiple | 50.29 | -7.14 | 3.65 | 0.56 |
SQ Walter Schloss | 50.02 | -8.89 | 3.35 | 0.68 |
SQ Chowder Rule | 43.61 | -6.63 | 1.75 | 0.65 |
SQ F-Score | 43.48 | -15.41 | 7.85 | 0.54 |
SQ Mangmao ATH with SET Filter | 40.9 | -7.97 | 4.8 | 0.6 |
SQ Buffettology (Modified) | 40.75 | -6.46 | 3.15 | 0.48 |
SQ 52 Week High | 38.79 | -10.12 | 5.25 | 0.53 |
SQ Rinen System | 36.46 | -4.87 | 2.55 | 0.74 |
SQ Buffettology | 35.5 | -5.26 | 3.1 | 0.71 |
SQ PE Band | 32.16 | -4.63 | 1.9 | 0.66 |
SQ Marc Lichtenfeld 10-11-12 | 31.04 | -9.68 | 7.9 | 0.65 |
SQ Earning Surprise Direhaus | 26.85 | -15.55 | 7.8 | 0.55 |
SQ Shareholder Yield | 25.92 | -14.08 | 7.05 | 0.64 |
SQ Z-Score 1968 | 22.8 | -7.27 | 5.95 | 0.58 |
SQ Elder Triple Screen With MACD (Modified) | 22.28 | -9.59 | 6.6 | 0.62 |
SQ Elder Triple Screen With MACD | 21.5 | -11.79 | 4.85 | 0.51 |
SQ The Golden Goose | 21.36 | -5 | 5.95 | 0.57 |
SQ Z-Score 1985 | 20.74 | -6.94 | 5.95 | 0.6 |
SETTRI Index | 17.67 | -6.98 | 2.6 | 1 |
SQ Kenneth Fisher Growth Stock | 13.2 | -11.37 | 7 | 0.55 |
SQ ZULU Principle | 3.94 | -6.82 | 8.05 | 0.46 |
SQ TenBagger | 0.66 | -0.91 | 7.55 | 0.3 |
SQ CANSLIM | -0.85 | -1.09 | 7.05 | 0.06 |
SQ Larry William OOPs | -8.3 | -8.32 | 12 | 0.17 |
SQ Simple MACD | -8.32 | -10.45 | 11.65 | 0.26 |
ตารางที่ 2 : ตารางแสดงค่าสถิติของกลยุทธ์การลงทุนทั้ง 40 ระบบใน AlphaSuite ในช่วงปี ค.ศ. 2021 ที่ผ่านมา (ตารางสามารถคลิ้กที่ชื่อกลยุทธ์สีเขียวเพื่ออ่านบทความเพิ่มเติมได้ครับ)
โดยจากผลการทดสอบกลยุทธ์การลงทุนทั้ง 40 รูปแบบในปี 2021 นั้น เราสามารถที่จะสรุปประเด็นต่างๆที่น่าสนใจต่างๆได้ดังนี้
หมายเหตุที่ 1 : สำหรับผลการทดสอบดังกล่าวเกิดจากการทดสอบระยะยาว 10 ปี แล้วจึงทำการตัดผลตอบแทนเฉพาะของปี 2021 มาทำการประเมินประสิทธิภาพนี้ ซึ่งผลลัพธ์อาจจะมีความแตกต่างจากการทดสอบเฉพาะปี 2021 เนื่องจากการทดสอบในระยะยาวจะมีหุ้นบางส่วนที่อยู่ในพอร์ตโฟลิโอมาตั้งแต่ก่อนปี 2021 นั่นเอง
สรุปประเด็นที่น่าสนใจของผลตอบแทนที่เกิดขึ้นจาก 40 กลยุทธ์การลงทุนในปี 2021
1. กลยุทธ์การลงทุนส่วนมากนั้นมีผลตอบแทนเป็นบวกและชนะตลาดเป็นส่วนใหญ่
สำหรับปี ค.ศ. 2021 ที่ผ่านมานั้นเป็นช่วงที่ตลาดหุ้นไทย (ดัชนี SETTRI Index) มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น 17.67% โดยเมื่อเราพิจารณากลยุทธ์การลงทุนที่อยู่ใน AlphaSuite ทั้งหมด 40 กลยุทธ์พบว่ามี 34 กลยุทธ์จากทั้งหมด 40 กลยุทธ์หรือคิดเป็น 85% ที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้เหนือดัชนี SETTRI Index
ซึ่งแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าในช่วงระยะที่ผ่านมาปัจจัยที่เป็นรากฐานของกลยุทธ์ต่างๆใน AlphaSuite ทั้งปัจจัยด้านแนวโน้มของราคา (Momentum), ปัจจัยเชิงคุณค่า (Value), ปัจจัยด้านการเติบโตของกิจการ (Growth) และ ปัจจัยด้านเงินปันผล (Dividend) นั้นล้วนแล้วแต่ให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าตลาดซึ่งเป็นตัวแทนของหุ้นขนาดใหญ่ (Big Cap Factor)
อย่างไรก็ตาม สำหรับกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทนที่ต่ำกว่าตลาดนั้นจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ
- เป็นกลยุทธ์ที่มีเงื่อนไขในการคัดกรองที่เข้มงวดจนเกินไป เป็นเหตุให้มีหุ้นจำนวนน้อยที่ผ่านเกณฑ์การคัดกรองทำให้กลยุทธ์มีสัดส่วนการถือเงินสดเป็นปริมาณมาก โดยตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดคือ กลยุทธ์การลงทุน CANSLIM ของ William J’ Oneil ซึ่งสัดส่วนการถือครองเงินสดจะอยู่ช่วง 95-100% ตลอดช่วงปี 2021 อย่างไรก็ตาม เมื่อเรานำกลยุทธ์การลงทุน CANSLIM มาทำการปรับแต่งให้มีความเหมาะสมกับสภาพตลาดหุ้นไทยเราจะพบว่ากลยุทธ์การลงทุน CANSLIM ฉบับปรับปรุงโดยทีมงาน SiamQuant นั้นให้ผลตอบแทนสูงที่สุดเป็นอันดับที่ 3 โดยมีผลตอบแทนเท่ากับ 108.09% และนอกจาก CANSLIM แล้วกลยุทธ์อื่นๆที่อยู่ในลักษณะดังกล่าว เช่น กลยุทธ์การลงทุน ZULU Principle และกลยุทธ์การลงทุนหุ้นสิบเด้งของ Peter Lynch เป็นต้น
- เป็นกลยุทธ์ที่ให้ผลคอบแทนคาดหวัง (Expectancy) เป็นลบ เช่น กลยุทธ์การลงทุน Simple MACD และกลยุทธ์การลงทุน OOPs ของ Larry Williams เนื่องจากกลยุทธ์ดังกล่าวจะมีลักษณะร่วมกันคือ สัญญาณที่เกิดให้ซื้อขายมีปริมาณที่มากแต่กลับมาความแข็งแรงของสัญญาณในระดับที่ต่ำ รวมถึงมีช่วงระยะเวลาการถือครองหุ้นนั้นมีระยะเวลาที่สั้น ทำให้ผลตอบแทนคาดหวังโดยเฉลี่ยต่อการซื้อขายหนึ่งครั้งอยู่ระดับที่ต่ำ ซึ่งในการทดสอบดังกล่าวได้มีการเพิ่มปัจจัยด้านต้นทุนของการซื้อขายประกอบด้วย อัตราค่าคอมมิสชั่น และค่าความคลาดเคลื่อนจากการซื้อขาย (Slippage) ทำให้ค่า Expectancy โดยรวมกลยุทธ์ติดลบจนเป็นเหตุให้ภาพรวมผลตอบแทนของกลยุทธ์เหล่านี้ให้ผลตอบแทนที่เป็นลบนั่นเองครับ
2. Momentum/Long-Term Trend Following คือกลยุทธ์ที่โดดเด่นในปี 2021 นี้
ในแง่ของกลุ่มกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุด 10 กลยุทธ์ในปีนี้นั้น พบว่ากลยุทธ์เหล่านี้ล้วนแล้วแต่มีปัจจัยที่เป็นรากฐานของผลตอบแทนร่วมกันคือปัจจัยด้านแนวโน้มของราคา (Momentum) หรือ Trend Following ที่มุ่งเน้นการสร้างผลตอบแทนจากแนวโน้มขาขึ้นครั้งใหญ่ทั้งสิ้น
โดยมีสาเหตุหลักเนื่องจากจุดเด่นของกลยุทธ์ประเภท Long-Term Trend Following นั้นคือ การเลือกลงทุนในช่วงที่หุ้นมีแนวโน้มราคาเป็นขาขึ้นอย่างชัดเจน และหลีกเลี่ยงการถือครองหุ้นที่อยู่ในขาลง ซึ่งในปี 2021 นี้ถือเป็นภาวะตลาดที่เอื้ออำนวยต่อกลยุทธ์ประเภทดังกล่าว เนื่องจากภาวะตลาดโดยรวมนั้นมีแนวโน้มเป็นขาขึ้น ส่งผลให้สัดส่วนหุ้นที่มีแนวโน้มเป็นขาขึ้นครั้งใหญ่ในตลาดนั้นมีปริมาณที่มากตามไปด้วย และจะทยอยลดสักส่วนการถือครองเมื่อหุ้นหมดแนวโน้มเป็นขาขึ้นอย่างชัดเจน
ด้วยสภาวะเช่นนี้เอง จึงทำให้กลยุทธ์แบบ Trend Following สามารถสร้างผลตอบแทนได้สูงกว่ากลยุทธ์ประเภทอื่นๆในช่วงปีนี้ เนื่องจากกลยุทธ์ล้วนแล้วแต่คัดหุ้นที่มีแนวโน้มเป็นขาขึ้นเข้ามาในพอร์ตโฟลิโอทั้งสิ้น
3. แม้ว่ากลยุทธ์ส่วนใหญ่จะให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าตลาด แต่ในระยะสั้นๆกลยุทธ์ต่างๆก็มีช่วงเวลาที่ย่ำแย่เช่นกัน
ในประเด็นสุดท้ายนี่เราพบว่าแม้ว่ากลยุทธ์ส่วนใหญ่จะให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าตลาด แต่ในระยะสั้นๆก็มีช่วงเวลาที่ย่ำแย่เช่นกัน โดยเมื่อเรานำกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทนเหนือตลาด (Outperformance) ทั้ง 34 กลยุทธ์มาพิจารณาจะได้ดังนี้
Statistics | Net Profit (%) | Max. DD (%) | Longest DD (Months) | Correlation with SETTRI |
SETTRI Index | 17.67 | -6.98 | 2.6 | 1 |
Total | 34.00 | 34.00 | 34.00 | 34.00 |
Average | 54.69 | -10.36 | 4.19 | 0.55 |
Median | 50.16 | -9.56 | 3.65 | 0.55 |
Minimum | 20.74 | -21.28 | 1.15 | 0.36 |
Maximum | 123.90 | -4.63 | 7.90 | 0.74 |
STDev | 28.67 | 4.27 | 1.93 | 0.09 |
ตารางที่ 3 : ตารางแสดงค่าสถิติของกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทนเหนือตลาด (Outperformance) ในช่วงปี ค.ศ. 2021 ที่ผ่านมา
จากตารางข้างต้นจะแสดงให้เห็นว่าแม้ว่ากลยุทธ์เหล่านี้จะให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าตลาดแต่หากพิจารณาในด้านของความเสี่ยงซึ่งวัดโดยอัตราการถดถอยสูงสุดของพอร์ตโฟลิโอหรือค่า Maximum Drawdown นั้นพบว่าโดยเฉลี่ยกลยุทธ์เหล่านี้มีค่า Max. DD ที่ -10.36% เมื่อเปรียบเทียบกับดัชนี SETTRI Index ที่ -6.98% หรือสูงกว่าดัชนี SETTRI ที่ราวๆ -3.38% ทั้งนี้กลยุทธ์ที่มีอัตราการถดถอยของพอร์ตโฟลิโอสูงที่สุดคือ -21.28% (กลยุทธ์การลงทุน MACD-ATH)
นอกจากนี้หากวัดในแง่ของช่วงระยะเวลาที่ยาวนานที่สุดที่พอร์ตโฟลิโอไม่ทำจุดสูงสุดใหม่หรือค่า Longest Drawdown นั้นพบว่าโดยเฉลี่ยกลยุทธ์เหล่านี้มีช่วงระยะเวลาที่พอร์ตโฟลิโอไม่ทำจุดสูงสุดนานถึง 4.19 เดือน เมื่อเปรียบเทียบกับดัชนี SETTRI Index ที่ 2.6 เดือน ทั้งนี้กลยุทธ์ที่มีช่วงระยะเวลาที่นานที่สุดที่พอร์ตโฟลิโอไม่ทำจุดสูงสุดใหม่คือ 7.9 เดือน (กลยุทธ์การลงทุน Marc Lichtenfeld 10-11-12)
ดังนั้น จะสังเกตได้ว่ากลยุทธ์ที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้ในระดับที่สูงกว่าตลาดเหล่านี้นั้น ก็มีช่วงระยะเวลาที่พอร์ตโฟลิโอปรับตัวลดลงและเป็นช่วงที่พอร์ตไม่ได้ทำจุดสูงสุดใหม่เช่นกัน ซึ่งหากนักลงทุนขาดความเข้าใจในกลยุทธ์อย่างถ่องแท้ รวมถึงมีทัศนคติในการลงทุนที่ไม่เหมาะสมก็มักจะไม่สามารถทนรับกับช่วงเวลาเหล่านี้ได้ จนทำให้หลายๆคนไม่สามารถมีวินัยอยู่กับกลยุทธ์จนสร้างผลตอบแทนอย่างเป็นที่น่าพอใจได้ในที่สุด
บทสรุปการรีวิวผลตอบแทนของ 40 กลยุทธ์การลงทุนจากแนวคิดของเซียนหุ้นระดับโลกในปี ค.ศ. 2021 ที่ผ่านมา
จากข้อมูลผลตอบแทนของทั้ง 40 กลยุทธ์ของปี 2021 ที่ผ่านมา จะสังเกตได้ว่าดัชนี SETTRI Index ได้มีการปรับเพิ่มขึ้น 17.67% โดยในช่วงปีที่ผ่านมานั้นพบว่ากลยุทธ์การลงทุนกว่าส่วนใหญ่ AlphaSuite นั้นจะให้ผลตอบแทนที่เป็นบวก ซึ่งมีกลยุทธ์การลงทุนกว่า 85.00% ที่ยังคงให้ผลตอบแทนที่มากกว่า 17.67% หรือให้ผลตอบแทนที่ชนะดัชนี SETTRI Index
แต่อย่างไรก็ตามยังมีอีกหลายๆสิ่ง ที่มีสำคัญมากกว่าผลตอบแทนที่เป็นบวกหรือเป็นลบ เช่น ความเข้าใจเกี่ยวกับพฤติกรรมของกลยุทธ์อย่างลึกซึ้ง, การบริหารผลตอบแทนและความเสี่ยง รวมถึง วินัยในการปฎิบัติตามกลยุทธ์ที่ดีไปจนตลอดรอดฝั่ง เป็นต้น
และนี่ก็คือบทสรุปการรีวิวผลตอบแทนของ 40 กลยุทธ์การลงทุนจากแนวคิดของเซียนหุ้นระดับโลก ในตลาดหุ้นไทยในปี 2021 นี้ หวังว่าจะมีประโยชน์กับนักลงทุนทุกท่านครับ 😀