- ลงทุนหุ้นใหญ่ดีจริงหรือไม่? - February 20, 2022
- รีวิวผลตอบแทน 40 กลยุทธ์การลงทุนในตลาดหุ้นไทยของเดือนมกราคมปี ค.ศ. 2022 - February 7, 2022
- รีวิวผลตอบแทน 40 กลยุทธ์การลงทุนในตลาดหุ้นไทยปี ค.ศ. 2021 - January 5, 2022
สำหรับเดือนมีนาคมปี 2020 ที่กำลังจะผ่านไปนี้ ถือเป็นช่วงเวลาที่ตลาดหุ้นไทยและตลาดหุ้นทั่วโลกยังคงมีความผันผวนเป็นอย่างมากต่อเนื่องจากเดือนกุมภาพันธ์ โดยมีสาเหตุหลักมาจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ซึ่งกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจจนส่งผลให้ SET Index และดัชนี SETTRI Index ได้ปรับตัวลดลงถึง -17.96% และ -17.43% ตามลำดับ
ซึ่งในการรีวิวนี้ผมได้นำ 33 กลยุทธ์การลงทุนที่สร้างขึ้นมาโดยยึดหลักการแนวคิดของเซียนหุ้นระดับโลก มาเป็นตัวแทน (Proxy) ของกลยุทธ์การลงทุนที่นักลงทุนส่วนใหญ่มักใช้กัน และนำมาทำการทดสอบในตลาดหุ้นไทยให้เพื่อนๆพี่น้องๆนักลงทุนได้เห็นถึงประสิทธิภาพของกลยุทธ์การลงทุนในแต่ละแนวทางที่แตกต่างกัน โดยหวังว่าจะช่วยให้คุณสามารถที่จะเปรียบเทียบผลตอบแทนของตัวคุณเอง ได้ในมุมมองที่กว้างกว่าเพียงการเปรียบเทียบกับดัชนี SET Index ซึ่งถือเป็นตัวแทนของผลตอบแทนจากกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่เพียงอย่างเดียว
หวังว่าจะมีประโยชน์กับนักลงทุนทุกท่านครับ!
33 กลยุทธ์การลงทุนจากแนวคิดของเซียนหุ้นระดับโลก
ภาพที่ 1 : ภาพแสดงเส้น Equity ของกลยุทธ์ทั้งหมดใน SiamQuant AlphaSuite เปรียบเทียบกับดัชนี SETTRI Index (เส้นสีดำ) ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี 2010 ถึง 2020-03-27
สำหรับการรีวิวผลตอบแทนของกลยุทธ์การลงทุนทั้ง 33 รูปแบบในบทความนี้นั้น ผมได้นำเอากลยุทธ์การลงทุนจากแนวคิดของเซียนหุ้นชื่อดังต่างๆที่ผมและทางทีมงาน SiamQuant ได้เคยวิจัย และเผยแพร่ชุด Code Template เอาไว้ใน SiamQuant Amibroker’s AlphaSuite มาทำการทดสอบถึงผลตอบแทนในตลาดหุ้นไทยกันออกมา โดยที่เราสามารถที่จะแบ่งกลยุทธ์ต่างๆออกเป็น 5 กลุ่มหลักๆ ตามแนวทางและปรัชชญาการลงทุนที่แตกต่างกันไปดังต่อไปนี้
- Momentum/Trend Following : แนวคิดการลงทุนที่พิจารณาที่ความแข็งแกร่งและแนวโน้มของราคาหุ้นเป็นหลัก โดยในแต่ละกลยุทธ์นั้นก็จะมีแนวคิดและใช้เครื่องมือทางเทคนิคในการวิเคราะห์ที่แตกต่างกันออกไป อาทิเช่น กลยุทธ์ของ Jesse Livermore, Mark Minervini รวมถึง Mangmao All-Time-High ที่เราเคยได้เผยแพร่เอาไว้
- Growth Investing : แนวคิดการลงทุนที่พิจารณาแนวโน้มการเติบโตของกิจการจากข้อมูลปัจจัยพื้นฐาน โดยจะเน้นลงทุนในหุ้นของกิจการที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง อาทิเช่นกลยุทธ์การค้นหาหุ้น 10 เด้งของ Peter Lynch
- Value Investing : แนวคิดการลงทุนแนวหุ้นคุณค่าที่พยายามหาหุ้นที่มีราคาตลาดต่ำกว่าราคาเหมาะสม (Intrisic Value) โดยในแต่ละกลยุทธ์นั้นก็จะมีแนวคิดและวิธีการคำนวนราคาเหมาะสมจากข้อมูลปัจจัยพื้นฐานที่แตกต่างกันออกไป อาทิเช่น กลยุทธ์ Buffettology ของ Marry Buffett, NCAV ของ Benjamin Graham หรือ Enterprise Multiple ของ Tobias Carlisle
- Dividend Investing : แนวคิดการลงทุนที่มุ่งเน้นการลงทุนในกลุ่มหุ้นที่ให้เงินปันผลสูง อาทิเช่นกลยุทธ์หุ้นปันผล 10-11-12 ของ Marc Lichtenfeld หรือ Chowder Rule ของ Lowell Miller
- Hybrid Investing : แนวคิดการลงทุนแบบผสมผสาน โดยใช้ทั้งการวิเคราะห์แนวโน้มราคาหุ้นด้วยปัจจัยเทคนิค, การวิเคราะห์แนวโน้มการเติบโตของกิจการ และ การวิเคราะห์ราคาเหมาะสมจากข้อมูลปัจจัยพื้นฐาน โดยในแต่ละกลยุทธ์การลงทุนนั้นก็จะมีแนวคิดการผสมผสานปัจจัยต่างๆที่แตกต่างกันออกไป อาทิเช่น CANSLIM ของ O’Neil, Earning Surprise Breakout ของ Driehaus และ Zulu Principle ของ Jim Slater
ซึ่งเราจะเห็นได้ว่ากลยุทธ์การลงทุนในแนวทางทั้ง 5 นั้น ก็ค่อนข้างที่จะเพียงพอต่อการทำให้เราได้เห็นถึงภาพรวมของผลตอบแทนของนักลงทุนรายย่อยส่วนใหญ่ได้ในระดับหนึ่ง เนื่องจากพวกมันถือได้ว่าเป็นแนวทางหลักๆที่นักลงทุนส่วนใหญ่ในตลาดหุ้นไทยได้นำเอามาปรับใช้กันอย่างกว้างขวางนั่นเองครับ
สถิติผลตอบแทนในภาพรวมของ 33 กลยุทธ์การลงทุนช่วงมีนาคมของปี 2020
สำหรับการทดสอบกลยุทธ์การลงทุนต่างๆเพื่อวัดผลตอบแทนในบทความนี้นั้น เพื่อให้ผลลัพธ์นั้นได้สะท้อนถึงข้อจำกัดและสภาพแวดล้อมต่างๆของนักลงทุนส่วนบุคคลหรือรายย่อยในตลาดหุ้นไทยจนเกิดความสมจริงในระดับหนึ่งนั้น โดยผมได้ทำการทดสอบกลยุทธ์กำหนดเงื่อนไขต่างๆในระดับที่ไม่ได้เข้มงวดมากนัก ดังนี้ (Mild Backtesting Restriction & Environment)
Condition | Details |
Backtesting Window |
|
Backtesting Restriction |
|
Universe |
|
Entry |
|
Exit |
|
Filters |
|
Position Size |
|
Position Score |
|
Order Management |
|
ตารางที่ 1 : ตารางแสดงเงื่อนไขสำหรับการทดสอบกลยุทธ์การลงทุนทั้ง 33 ระบบใน AlphaSuite
โดยหลังจากที่เราได้กำหนดเงื่อนไขการทดสอบต่างๆไว้เรียบร้อยแล้วนั้น ผมและทางทีมงาน SiamQuant ก็ได้ค่อยๆไล่ Backtest กลยุทธ์การลงทุนต่างๆใน AlphaSuite กันออกมา จากนั้นจึงนำผลลัพธ์ที่ได้มาทำการคิดผลตอบแทนเฉพาะช่วงเดือนมีนาคม 2020 ที่ผ่านมาดังนี้ (ใครมึนกับข้อมูลให้ข้ามไปอ่านช่วงสรุปประเด็นได้เลยนะครับ :D)
ภาพที่ 2 : ภาพแสดงเส้น Equity ของกลยุทธ์ทั้งหมดใน SiamQuant AlphaSuite เปรียบเทียบกับดัชนี SETTRI Index (เส้นสีดำ) ตั้งแต่วันที่ 2020-02-01 ถึง 2020-03-27
ภาพที่ 3 : Bar Chart แสดงผลกำไร (Net Profit) ของกลยุทธ์ทั้งหมดใน SiamQuant AlphaSuite เปรียบเทียบกับดัชนี SETTRI Index (เส้นสีดำ) ตั้งแต่วันที่ 2020-02-01 ถึง 2020-03-27
System | Net Profit (%) |
SETTRI Index | -17.43 |
SQ Simple MACD | -2.38 |
SQ PE Band | -20.94 |
SQ Livermore | -3.23 |
SQ Elder Triple Screen With Force index | -1.79 |
SQ Elder Triple Screen With Force index (Modified) | -1.47 |
SQ Elder Triple Screen With MACD | -3.91 |
SQ Elder Triple Screen With MACD (Modified) | -8.13 |
SQ Buffettology | -17.41 |
SQ Buffettology (Modified) | -13.25 |
SQ TenBagger | -26.48 |
SQ TenBagger (Modified) | -6.83 |
SQ F-Score | -19.61 |
SQ CANSLIM | 0 |
SQ CANSLIM (Modified) | -3.64 |
SQ Mangmao ATH | -0.01 |
SQ Mangmao ATH with SET Filter | 0.04 |
SQ 52 Week High | -19.44 |
SQ NCAV Graham | -18.07 |
SQ Enterprise Multiple | -14.33 |
SQ Fibo Triple Moving Average | -14.47 |
SQ Marc Lichtenfeld 10-11-12 | -11.42 |
SQ Turtle Trading Signals | -7.52 |
SQ Z-Score 1968 | -17.94 |
SQ Z-Score 1985 | -17.51 |
SQ Minervini Trend template | -1.09 |
SQ Shareholder Yield | -19.1 |
SQ Magic Formula | -13.56 |
SQ Rinen System | -18.1 |
SQ ZULU Principle | -10.65 |
SQ Chowder Rule | -19.06 |
SQ Oberweis Octagon | -8.03 |
SQ EdSeyKoTa | -5.68 |
SQ Earning Surprise Direhaus | -0.01 |
ตารางที่ 2 : ฺตารางค่าสถิติสำคัญของ 33 กลยุทธ์ใน AlphaSuite เปรียบเทียบกับดัชนี SETTRI Index ในช่วงเดือนมีนาคม 2020
โดยจากผลการทดสอบกลยุทธ์การลงทุนทั้ง 33 เราสามารถที่จะสรุปประเด็นต่างๆที่น่าสนใจต่างๆได้ดังนี้
ประเด็นที่น่าสนใจของผลตอบแทนที่เกิดขึ้นจาก 33 กลยุทธ์การลงทุนในเดือนมีนาคม 2020
ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เป็นช่วงที่ตลาดหุ้นไทยมีความผันผวนและลดลงรุนแรงถึง -17.43% ภายในเดือนเดียว ซึ่งหากวัดผลตอบแทนในเชิง Absolute Return นั้นกลยุทธ์ส่วนมากใน AlphaSuite นั้นก็มักจะให้ผลตอบแทนที่ติดลบด้วยกันทั้งสิ้น อย่างไรก็ตาม หากวัดผลตอบแทนในเชิง Relative Return เปรียบเทียบกับดัชนี SETTRI Index จะพบว่ามีกลยุทธ์ทั้งหมด 22 กลยุทธ์จาก 33 กลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทนเหนือดัชนี SETTRI Index
Stat | Monthly Return (%) |
SETTRIIndex | -17.43 |
Average | -10.46 |
Median | -10.65 |
Min | -26.48 |
Max | 0.04 |
STDev | 7.79 |
Beat SETTRI Index | 69.70% |
ตารางที่ 3 : ตารางแสดงค่าสถิติเชิงบรรยาย (Descriptive Statistics) ของผลตอบแทนรายเดือนในช่วงเดือนมีนาคม 2020
โดยเราพบว่าค่าเฉลี่ยของผลตอบแทนในเดือนที่ผ่านมานั้นติดลบอยู่ที่ -10.46% ซึ่งกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทนสูงที่สุด 5 อันดับแรกมีดังนี้
- กลยุทธ์การลงทุน Mangmao ATH With SET Filter ซึ่งให้ผลตอบแทนที่เป็นบวก +0.04 %
- กลยุทธ์การลงทุนหุ้บเติบโตผสานโมเมนตัม CANSLIM ของ William J. O’neil ฉบับดั้งเดิม ซึ่งให้ผลตอบแทนเท่ากับ 0 %
- กลยุทธ์การลงทุนหุ้บเติบโตผสานโมเมนตัม Earning Surprise Breakout ของ Richard Driehaus ซึ่งให้ผลตอบแทนที่ติดลบ -0.01 %
- กลยุทธ์การลงทุน Mangmao ATH ซึ่งให้ผลตอบแทนที่ติดลบ -0.01 %
- กลยุทธ์การลงทุนตามแนวโน้มของ Mark Minervini Trend Template ซึ่งให้ผลตอบแทนที่ติดลบ -1.09 %
ซึ่งประเด็นที่น่าสนใจของผลตอบแทนในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมานี้คือ กลยุทธ์ส่วนมากที่ให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าดัชนี SETTRI Index นั้นมักจะเป็นกลุ่มกลยุทธ์ประเภท Momentum ซึ่งมีลักษณะร่วมกันคือ เป็นกลยุทธ์ประเภท Timing กล่าวคือ มีการกำหนดช่วงระยะเวลาในการเข้าซื้อขายหุ้น
โดยข้อดีของกลยุทธ์ประเภทดังกล่าวนี้ก็คือ กลยุทธ์จะมีกลไกการปกป้องความเสี่ยงโดยอัตโนมัติ เนื่องจากเมื่อไหร่ก็ตามที่หุ้นในพอร์ตโฟลิโอมีแนวที่เปลี่ยนเป็นขาลงอย่างชัดเจน กลยุทธ์จะค่อยๆลดความเสี่ยงโดยการทยอยขายหุ้นเหล่านั้นออกไป ส่งผลให้ในช่วงตลาดที่เป็นขาลงที่ผ่านมานั้นกลยุทธ์ถือครองเงินสดเกือบทั้งหมด ดังตัวอย่าง
ภาพที่ 4 : ภาพแสดงการเติบโตของกลยุทธ์ Mangmao ATH With SET Filter (เส้นสีเขียว) เปรียบเทียบกับดัชนี SET index (เส้นสีดำ) , สัดส่วนการถือเงินสด และจำนวน Open Positions ในแต่ละวัน
จากตารางดังกล่าวข้างต้นจะสังเกตได้ว่า ในช่วงเดือนมีนาคมกลยุทธ์ Mangmao ATH With SET Filter ได้ทำการทยอยขายหุ้นออกจนหมดและถือเงินสด 100% ตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมาสังเกตได้จาก Total Cash มีค่าเท่ากับ 100% และ Total Open Positions มีค่าเท่ากับ 0 นั่นเอง ซึ่งกลไกดังกล่าวนี้เองที่เป็นสาเหตุเบื้องหลังที่ทำให้ในช่วงที่ผ่านมากลยุทธ์ไม่ได้รับผลกระทบจากการปรับตัวลดลงของตลาดหุ้นไทยนั่นเอง
ซึ่งจะมีความแตกต่างจากผลตอบแทนของกลยุทธ์ประเภท Buy & Hold อย่างชัดเจน ที่กลยุทธ์มักจะถือหุ้นในพอร์ตโฟลิโอตลอดเวลา ทำให้ในช่วงระยะเวลาที่ตลาดมีการปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงและรวดเร็วนั้น กลยุทธ์จะได้รับผลกระทบจากความผันผวนของตลาดโดยตรงนั่นเองครับ
บทสรุปการรีวิวผลตอบแทนของ 33 กลยุทธ์การลงทุนจากแนวคิดของเซียนหุ้นระดับโลก ในช่วงเดือนมีนาคม 2020 ที่ผ่านมา
จากข้อมูลผลตอบแทนของทั้ง 33 กลยุทธ์ในเดือนมีนาคมปี 2020 ที่ผ่านมา จะสังเกตได้ว่าตลาดหุ้นในช่วงเดือนนี้มีความผันผวนอย่างรุนแรงทั่วทั้งโลก ส่วนหนึ่งนั้นเป็นเพราะการระบาดของไวรัส COVID-19 ที่ส่งผลต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจของประชาชนทั้งประเทศโดยตรงและโดยอ้อม จนส่งผลให้ดัชนี SETTRI Index มีการปรับตัวลดลงถึง -17.43% อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่ากลยุทธ์การลงทุนกว่าส่วนใหญ่ AlphaSuite นั้นจะให้ผลตอบแทนที่ติดลบ แต่ก็ยังมีกลยุทธ์การลงทุนกว่า 69.70% ที่ยังคงให้ผลตอบแทนที่ชนะดัชนี SETTRI Index
ส่วนสำหรับกลยุทธ์ที่ยังคงขาดทุนหรือแพ้ตลาดในช่วงนี้นั้น ไม่ได้แปลว่ามันได้กลายเป็นกลยุทธ์ที่ไร้ประสิทธิภาพหรือย่ำแย่ไปแล้วแต่อย่างใด เพราะทุกกลยุทธ์นั้นย่อมต้องมีช่วงเวลาที่เอื้ออำนวยและไม่เอื้ออำนวยกับสภาวะตลาดของมันกันทั้งสิ้น ซึ่งนี่ก็เป็นหนึ่งในความจริงที่นักลงทุนที่ลงทุนอย่างเป็นระบบจะต้องทำความเข้าใจและยอมรับ
ดังนั้น ในที่สุดแล้วการมีความเข้าใจเกี่ยวกับพฤติกรรมของกลยุทธ์อย่างถูกต้องและลึกซึ้ง, การบริหารผลตอบแทนและความเสี่ยง รวมถึงการมีวินัยในการลงทุนให้สามารถปฎิบัติตามหลักการและกลยุทธ์ที่ดีได้จนตลอดรอดฝั่งนั้น จึงยังเป็นสิ่งที่จำเป็นและสำคัญอยู่เสมอในการลงทุนนั่นเอง
และนี่ก็คือบทสรุปการรีวิวผลตอบแทนของ 33 กลยุทธ์การลงทุนจากแนวคิดของเซียนหุ้นระดับโลก ในตลาดหุ้นไทยในเดือนมีนามค 2020 นี้ หวังว่าจะมีประโยชน์กับนักลงทุนทุกท่านครับ 😀