เนื่องจากกลยุทธ์ Mangmao All-Time-High จะกลายเป็นกลยุทธ์ที่ถูกนำมาปรับปรุงและทดสอบกับแนวคิดของ Money & Risk Management รูปแบบต่างๆในงานสัมมนา MangmaoTalk 2019 ที่จะถึงนี้ ผมจึงอยากที่จะรีวิวถึงผลลัพธ์ของมัน หลังจากได้ถูกเปิดเผยอย่างกว้างขวางเป็นเวลาเกือบ 5 ปีมาให้ทุกคนได้อ่านกัน เพื่อให้เป็นกำลังใจและชี้ให้เห็นถึงกลยุทธ์การลงทุนที่มีประสิทธิภาพรูปแบบหนึ่งในตลาดหุ้นไทยกันครับ
กลยุทธ์ Mangmao All-Time-High และการท้าทายตลาดหุ้นของผม
ท่ามกลางความเชื่อที่ว่าตลาดหุ้นนั้นมีประสิทธิภาพ (Efficient Market) จนนักลงทุนไม่สามารถที่จะเอาชนะมันได้ในระยะยาว และการลงทุนด้วยหลักการของ Technical Analysis หรือราคาหุ้นเพียงอย่างเดียวนั้น ก็ไม่สามารถที่จะช่วยให้นักลงทุนสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีได้ รวมไปถึงแนวคิดที่ว่ากองทุน Algo และ A.I. ต่างๆที่ได้เกิดขึ้นในตลาดหุ้นในช่วง 2-3 ปี ก็ได้ทำลายโอกาสในการในการทำกำไรของกลยุทธ์การลงทุนรูปแบบเก่าๆไปจนหมดสิ้นแล้ว
คุณคิดว่าระบบการลงทุนที่เรียบง่าย, ไม่ซับซ้อน, ไม่ใช้ความรู้หรือเทคโนโลยีขั้นสูงใดๆในการลงทุน จะยังคงสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีได้ภายหลังจากที่มันถูกเปิดเผยกฎในการลงทุนของมันออกไปเป็นเวลากว่า 5 ปีกันหรือไม่ครับ?
แน่นอนว่าคำตอบของคนส่วนใหญ่ก็คือ “ไม่น่าจะเป็นไปได้!” จริงไหมครับ?
ด้วยเหตุนี้เอง ในบทความนี้ผมจึงอยากที่นำพานักลงทุนทุกท่านไปพิสูจน์ถึงความจริงในข้อนี้กันอย่างชัดเจน เพื่อที่จะเป็นการยืนยันให้เห็นอีกครั้งหนึ่งว่า ความเข้าใจต่อช่องโหว่ในการทำกำไรจากตลาดหุ้น (Market Anomaly) และการวิจัยออกแบบระบบการลงทุนให้เรียบง่ายและยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลงนั้น (Robust Trading System) ก็ยังจะคงเป็นกุญแจสำคัญสู่การสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนในตลาดหุ้นได้อยู่เช่นเดิม
ผมหวังว่าเนื้อหาต่อไปนี้จะมีประโยชน์กับทุกท่านไม่มากก็น้อย ว่าแล้วก็มาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ!
“Simplicity is the ultimate sophistication”
Leonardo Darvinci
กลยุทธ์ Mangmao All-Time-High คืออะไร?
กลยุทธ์การลงทุน Mangmao All-Time-High (ต่อจากนี้จะขอเรียกสั้นๆว่า Mangmao ATH นะครับ) คือระบบการลงทุนที่ผมได้เปิดเผยเอาไว้ในหนังสือ “แมงเม่าคลับ แบ่งปันความรู้ในการเล่นหุ้นอย่างเป็นระบบ” ซึ่งวางจำหน่ายในช่วงต้นปี ค.ศ. 2015 ซึ่งได้อาศัยเอาหลักของกลยุทธ์การลงทุนตามแนวโน้มในระยะยาวหรือ Long-Term Trend Following มาปรับใช้ โดยมีหัวใจหลักอยู่ที่การเข้าซื้อหุ้นเมื่อราคาของมันได้ทำจุดสูงสุดใหม่ขึ้น (All-Time-High Breakout) และทำการขายหุ้นทิ้งไปเมื่อแนวโน้มของราคาหุ้นได้กลายเป็นขาลงในทันที
โดยที่ระบบ Mangmao ATH นั้น ได้ใช้ประโยชน์จากช่องโหว่หรือความไร้ประสิทธิภาพของตลาดที่เรียกว่า Absolute Momentum Anomaly ซึ่งเกิดขึ้นจากการที่นักลงทุนในตลาดนั้นมักที่จะตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของข้อมูลข่าวสารที่ “ล่าช้า” กว่าความเป็นจริง (Under-Reaction) โดยแทนที่ข่าวสารใหม่ๆจะถูกยอมรับในทันทีตามที่ทฤษฎีตลาดมีประสิทธิภาพได้กล่าวไว้ แต่นักลงทุนในตลาดกลับจะค่อยๆเกิดการยอมรับต่อข้อมูลชิ้นใหม่ภายในระยะเวลาหนึ่ง จนก่อให้เกิดเป็นแนวโน้มของราคาหุ้นที่ทอดยาวขึ้นมา แทนที่ราคาจะวิ่งไปสู่จุดเหมาะสมในทันทีดังภาพด้านล่างนี้
ภาพที่ 1 : ภาพแสดงพฤติกรรมของนักลงทุน โดยเส้นสีเขียวคือระดับราคาที่ควรจะเป็น ส่วนเส้นประคือราคาหุ้น โดยจะสังเกตุได้ว่าเมื่อระดับราคาที่ควรจะเป็นนั้นได้เปลี่ยนไปแล้วในกลางภาพ แต่แทนที่ราคาหุ้นจะวิ่งไปที่ระดับราคานั้นในทันที แต่มันกลับต้องอาศัยระยะเวลาในการไต่ระดับขึ้นไป จนก่อให้เกิดเป็นแนวโน้มของราคาหุ้นขึ้น และเป็นโอกาสให้กลยุทธ์การลงทุนตามแนวโน้มหรือ Trend Following สามารถหาโอกาสในการทำกำไรจากตลาดได้ (ที่มา งานวิจัยของกองทุน Hedge Fund AQR)
กลยุทธ์ Mangmao All-Time-High with SET Filter กับการผสานแนวคิดในการจัดการความเสี่ยงเมื่อตลาดหุ้นโดยรวมเป็นขาลง
โดยหลังจากที่คุณได้เข้าใจถึงหลักการในเบื้องต้นไปเรียบร้อยแล้วนั้น ผมก็จะขอแนะนำให้คุณได้รู้จักกับกลยุทธ์ Mangmao All-Time-High with SET Filter (MATHSET) กันเพิ่มเติมกันสักเล็กน้อย เพราะมันคือกลยุทธ์ที่จะถูกนำมาทดสอบถึงประสิทธิภาพกันในบทความนี้ เนื่องจากมันถือเป็นระบบการลงทุนที่ถูกพัฒนาไว้อย่างครบถ้วนที่สุดในหนังสือ “แมงเม่าคลับ” ที่ผมได้เผยแพร่ออกไปนั่นเอง
โดยที่ระบบการลงทุน MATHSET นั้น จะมีการผสมผสานเอาแนวคิดในการกำหนดขนาดการลงทุนและการจัดการความเสี่ยงเพิ่มเติมเข้าไป (Money & Risk Management) จากระบบ Mangmao ATH ดั้งเดิม โดยสามารถเขียนเป็นกฎในการลงทุนโดยสรุปได้ดังนี้
- Universe : หุ้นทุกตัวในตลาดหุ้นไทย
- Entry Filter :
- ตลาดหุ้นหรือดัชนี SET Index ต้องเป็นขาขึ้นเมื่อวัดจาก Donchian Channel 20 วัน
- มูลค่าการซื้อขายโดยเฉลี่ยภายใน 20 วันที่ผ่านมาต้องมากกว่า 1 ล้านบาท
- Entry Timing : เมื่อราคาสร้างจุดสูงสุดใหม่ที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์หรือ All-Time-High
- Exit Timing : เมื่อราคาหลุดเส้นค่าเฉลี่ยในระดับ 50 วัน
- Position Size : กำหนดขนาดการลงทุนจากความผันผวนของราคาหุ้น โดยป้องกันความเสี่ยงไม่ให้เสียหายเกิน 1% ของพอร์ตในการซื้อขายแต่ละครั้ง (โดยเฉลี่ยราวๆครั้งละประมาณ 5% ของพอร์ตโฟลิโอ)
โดยเมื่อเกิดสัญญาณขึ้นนั้น ระบบจะทำการเข้าซื้อขายในวันทำการถัดไป ซึ่งแสดงให้เห็นเป็นลักษณะของสัญญาณการซื้อขายได้ดังภาพตัวอย่างนี้
ภาพที่ 2 : สัญญาณซื้อขายหุ้นของระบบการลงทุน Mangmao All-Time-High with SET Filter โดยสีเขียวคือช่วงเวลาที่ระบบเข้าซื้อและถือหุ้น ส่วนสีแดงคือช่วงเวลาที่ระบบได้ทำการขายหุ้นทิ้งไป
หมายเหตุ 1 : กลยุทธ์ MATHSET นั้นถูกออกแบบไว้เพื่อการลงทุนอย่างเป็นระบบสำหรับนักลงทุนรายย่อยเพียงเท่านั้น เนื่องจากมันได้ถูกคำนวณถึงข้อจำกัดด้านสภาพคล่อง (Liquidity) ไว้สำหรับพอร์ตโฟลิโอขนาดเล็กถึงกลางเท่านั้น หากคุณมีพอร์ตโฟลิโอขนาดใหญ่ในระดับ 5 ล้านบาทขึ้นไป กลยุทธ์จะต้องถูกปรับปรุงในเงื่อนไขต่างๆ เพื่อให้สามารถรองกับขนาดพอร์ตโฟลิโอได้อีกครั้งหนึ่งครับ
เงื่อนไขการทดสอบประสิทธิภาพของกลยุทธ์ Mangmao All-Time-High with SET Filter
สำหรับเงื่อนไขการทดสอบระบบการลงทุนในบทความนี้นั้น ผมจะใช้เงื่อนไขเดียวกับในหนังสือ “แมงเม่าคลับ” เกือบทุกประการ (เนื่องจากถือเป็นระดับความเข้มงวดในการทดสอบที่คล้ายคลึงกับบรรดากองทุนส่วนใหญ่ในปัจจุบัน) ยกเว้นแต่การเปลี่ยนมาใช้ฐานข้อมูล Hybrid Database ของ SiamQuant ที่ได้ถูกทำการปรับปรุงย้อนหลัง (Back-Adjusted) ทั้งในเชิงของ Corporate Action และ Dividend เพิ่มเข้าไป เนื่องจากในปัจจุบันนี้ การนำเอาเงินปันผลรวมเข้าไปในการ Backtest นั้น ถือได้ว่าเป็นมาตรฐานโดยทั่วไปของผู้พัฒนาระบบการลงทุนส่วนใหญ่ โดยเราสามารถสรุปถึงเงื่อนไขในการทดสอบได้ดังนี้
- เงินลงทุนตั้งต้น : 1 ล้านบาท
- ฐานข้อมูล (Database) : SiamQuant AlphaSuite Hybrid Database
- ลักษณะของการส่งคำสั่ง (Order Type) : ราคาเปิดในวันถัดไป (Next Open)
- ความคลาดเคลื่อนของราคาซื้อขาย (Slippage) : เพิ่มขึ้นเมื่อเข้าซื้อ (หรือลดเมื่อสั่งขาย) จากราคาเปิด เป็นระยะช่วงราคาราว 25% ของระยะทางการเคลื่อนไหวของหุ้นในวันที่ถูกซื้อขาย
โดยสำหรับข้อมูลชี้วัดประสิทธิภาพของกลยุทธ์การลงทุน MATHSET นั้น ผมจะทำการแสดงเฉพาะตัวเลขสำคัญซึ่งมีผลต่อจิตวิทยาการลงทุนดังนี้
- CAGR % หรือผลตอบแทนทบต้นโดยเฉลี่ยต่อปี
- Max DD % หรืออัตราการย่อตัวสูงสุดของพอร์ตโฟลิโอขณะการลงทุน
- Longest DD หรือระยะเวลาความยาวนานในย่อตัวของพอร์ตโฟลิโอก่อนทำมูลค่าสูงสุดใหม่อีกครั้ง
- MAR Ratio หรืออัตราส่วนผลตอบแทนและความเสี่ยงระหว่าง CAGR % หารด้วย Max DD% ซึ่งจะช่วยชี้ให้เห็นถึงโอกาสของผลตอบแทนและความเสียหายสูงสุดที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการลงทุน
- Sharpe Ratio หรืออัตราส่วนผลตอบแทนส่วนเกิน (Excess Return) หารด้วยอัตราความผันผวนของผลตอบแทนส่วนเกิน (Excess Return Standard Deviation) ซึ่งจะช่วยชี้ให้เห็นถึงโอกาสในการสร้างผลตอบแทนส่วนเกินจากตลาด ต่อความผันผวนส่วนเกินจากตลาดของพอร์ตโฟลิโอ
ผลการทดสอบกลยุทธ์กลยุทธ์ Mangmao All-Time-High with SET Filter ในช่วงเวลาต่างๆ
ภาพที่ 3 : การเติบโตของเงินทุนของกลยุทธ์ Mangmao All-Time-High with SET Filter (MATHSET) เปรียบเทียบกับดัชนี SET Index ในภาพรวมระยะยาวตั้งแต่ปี ค.ศ. 1990-2019 (31 ตุลาคม)
ตารางที่ 1 : ผลตอบแทนและความเสี่ยงของกลยุทธ์ Mangmao All-Time-High with SET Filter (MATHSET) เปรียบเทียบกับดัชนี SET Index ตามช่วงเวลาต่างๆ
โดยในการทดสอบประสิทธิภาพของกลยุทธ์ MATHSET นั้น ผมได้ทำการทดสอบระบบ MATHSET ออกมาใน 4 ช่วงเวลา เพื่อให้ทุกคนได้เห็นถึงประสิทธิภาพและความเสถียรของระบบในช่วงเวลาต่างๆโดยมีข้อสังเกตดังนี้
- ช่วงเวลา 1990-2019 : แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของกลยุทธ์ในภาพรวมระยะยาวกว่า 30 ปี โดยมันได้ผ่านทั้งช่วงวิกฤติต้มยำกุ้ง (1997-2000) และแฮมเบอร์เกอร์ไครซิส (2008) ที่รุนแรงเป็นอย่างมาก แต่ก็ยังคงสามารถที่จะอยู่รอดและทำกำไรที่เหนือกว่าตลาดในระยะยาวได้ โดยให้ผลตอบแทนทบต้นโดยเฉลี่ยที่สูงถึง 20.9% (พอร์ตโต 244.38 เท่า) นอกจากนั้นแล้ว ในขณะที่ดัชนีตลาดหรือ SET Index เกิด Max DD หรือการถดถอยของมูลค่าที่สูงถึง -88% ในช่วงวิกฤติต้มยำกุ้ง แต่กลยุทธ์ก็ยังคงรักษาระดับความเสียหายไว้ได้ดีกว่าตลาดเป็นอย่างมากที่ราว -32.53% เท่านั้น
- ช่วงเวลา 2009-2018 : แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของกลยุทธ์ในระยะกลาง ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับการแสดงผลการลงทุน และผลการ Backtest ของกองทุนส่วนใหญ่ในตลาดหุ้นไทย โดยเราจะพบว่าในช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่ไม่เกิดวิกฤติใดๆขึ้น จนทำให้กลยุทธ์สามารถสร้างผลตอบแทนทบต้นโดยเฉลี่ยได้ถึง 37.88% ต่อปี ในขณะที่ดัชนีตลาดหรือ SET Index ให้ผลตอบแทนที่ราว 13.01% เท่านั้น
- ช่วงเวลา 2015-2019 : แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของกลยุทธ์การลงทุนในระยะสั้น ซึ่งถือเป็นผลภายหลังการเปิดเผยระบบการลงทุนในหนังสือ “แมงเม่าคลับ” รวมถึงเป็นช่วงที่ได้มีการเกิดขึ้นของกองทุน Algo – A.I. ต่างๆในตลาดหุ้นไทยเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์ก็ยังคงสามารถที่จะรักษาประสิทธิภาพของมันเอาไว้ได้ โดยให้ผลตอบแทนทบต้นโดยเฉลี่ยที่สูงถึง 22.15% ในขณะที่ดัชนี SET Index ให้ผลตอบแทนอยู่ที่ราว 1.65% ต่อปีเท่านั้น
- ช่วงเวลา 2019-ปัจจุบัน : แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของกลยุทธ์การลงทุนในระยะในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ โดยแม้ว่าจะเป็นปีที่ตลาดหุ้นมีความผันผวนเป็นอย่างมากและยังเคลื่อนที่เป็น Sideway มาเกือบตลอดทั้งปี แต่กลยุทธ์ก็ยังคงสามารถสร้างผลตอบแทนที่ราว 16% ในขณะที่ดัชนี SET Index ให้ผลตอบแทนที่ราว 2.27% เท่านั้น
บทสรุปผลการทดสอบกลยุทธ์ Mangmao All-Time-High with SET Filter หลังถูกเปิดเผยอย่างกว้างขวางเป็นเวลา 5 ปี
จากผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นนั้น คุณคงจะได้รู้ถึงคำตอบเกี่ยวกับประสิทธิภาพและความเสถียรของกลยุทธ์ Mangmao All-Time-High กันไปเรียบร้อยแล้ว โดยที่ถึงแม้ว่าระบบการลงทุน Mangmao All-Time-High นั้นจะเป็นกลยุทธ์ที่สุดแสนจะเรียบง่าย, ถูกเปิดเผยอย่างกว้างขวาง และยังไม่เคยได้ถูกปรับเปลี่ยนเงื่อนไขหรือ Parameter ใดๆของระบบเลยมากว่า 5 ปีแล้ว แต่มันก็ยังคงให้ผลตอบแทนที่ดีอยู่เช่นเดิม ซึ่งได้แสดงให้เราเห็นอย่างชัดเจนอีกครั้งหนึ่งว่า
- ช่องโหว่ในการทำกำไรจากปรากฎการณ์ความไร้ประสิทธิภาพของตลาดที่เรียกว่า Momentum Anomaly นั้นได้เกิดขึ้นและยังคงมีอยู่ในปัจจุบันในตลาดหุ้นไทยมาเป็นเวลากว่า 30 ปีแล้ว
- ระบบการลงทุนที่วางตนเองอยู่บนปรากฎการณ์ความไร้ประสิทธิภาพของตลาดที่ยั่งยืนนั้น ก็ยังคงจะสามารถสร้างผลกำไรได้ดี ตราบเท่าที่ปรากฎการณ์เหล่านี้ยังคงอยู่
- “ความเรียบง่าย” นั้นไม่จำเป็นต้องทำให้ผลตอบแทนของคุณนั้นด้อยกว่า “ความซับซ้อน” โดยที่เราจะเห็นได้ว่าระบบ MATHSET นั้นได้ให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าระบบการลงทุนที่ซับซ้อนกว่าระบบการลงทุนอีกหลายๆระบบในช่วงเวลาเดียวกัน อาทิเช่นในช่วงปี ค.ศ. 2009-2018 ซึ่งระบบให้ผลตอบแทนทบต้นโดยเฉลี่ยกว่า 37.88% ต่อปี และยังคงสามารถให้ผลตอบแทนทบต้นที่สูงกว่าตลาดเป็นอย่างมาก ภายหลังจากที่มันได้ถูกเปิดเผยออกมาเรียบร้อยแล้วก็ตาม
ดังนั้นแล้ว จะเห็นได้ว่าแม้โลกของการลงทุนจะเปลี่ยนแปลงไปสักเท่าไหร่ แต่ความเข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับพฤติกรรมของตลาด, การบริหารจัดการความเสี่ยงที่ดี รวมถึงวินัยในการลงทุนที่เข็มงวด ก็ยังคงจะเป็นกุญแจสำคัญต่อการสร้างผลตอบแทนอย่างยั่งยืนอยู่ต่อไป! และนี่ก็คือทั้งหมดของการรีวิวประสิทธิภาพของกลยุทธ์การลงทุน Mangmao All-Time-High ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมานี้ ผมหวังว่าจะมีประโยชน์และช่วยเป็นข้อพิสูจน์ถึงข้อสงสัยต่างๆให้กับทุกคนครับ 😀