ร้อยละ 99% ของนักลงทุนส่วนใหญ่นั้นมักคิดว่าวิธีการในการทำกำไรจากตลาดหุ้นที่ดีที่สุดนั้น คือการพยายามหาข้อมูลข่าวสารที่เร็วกว่า, ลึกกว่า และทำการวิเคราะห์ให้ดีกว่านักลงทุนคนอื่นๆในตลาด อย่างไรก็ตาม วิธีการเหล่านี้กลับมีข้อเสียซึ่งถือเป็นจุดบอดในการสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวอย่างที่คุณอาจคิดไม่ถึง และนี่คือสิ่งที่ผมอยากจะเล่าให้ฟัง รวมถึงแนะนำหนทางในการแก้ไขกันในวันนี้ครับ 🙂
วิธีการทำกำไร 3 รูปแบบของนักลงทุน
ในวันนี้ผมอยากที่จะเท้าความถึงเนื้อหาบางส่วนจากหนังสือ Winning The Loser’s Game ซึ่งถือเป็นหนึ่งในหนังสือการลงทุนระดับคลาสสิคที่เขียนโดย Charles D. Ellis ผู้ที่คร่ำหวอดในวงการกองทุนระดับโลกกันสักหน่อยครับ (Ellis เคยเป็นที่ปรึกษาและผู้ดูและการบริหารงานของทั้งกองทุนของมหาวิทยาลัย Havard, Yale หรือแม้กระทั่ง Vangard Fund มาแล้ว อ่านประวัติได้ที่ Wiki)
โดยสิ่งที่ผมอยากจะหยิบยกมาคุยก็คือแนวคิดของ Elis ที่เคยได้กล่าวไว้ว่าความจริงแล้วนักลงทุนมีวิธีการอยู่ 3 รูปแบบหลักๆในการที่จะทำกำไรจากตลาดได้ซึ่งก็คือ
- การทำกำไรจากความได้เปรียบด้านข้อมูลข่าวสาร (Information Edge) โดยที่นักลงทุนต้องใช้ความพยายามอย่างยิ่งยวดในการที่จะเข้าถึงข่าวสารได้อย่างรวดเร็วก่อนใคร, ข้อมูลที่ลึกกว่าใคร และข้อมูลที่แม่นยำกว่าใครในตลาดออกมาให้จงได้
- การทำกำไรจากความได้เปรียบด้านสติปัญญา (IQ) โดยที่นักลงทุนต้องใช้ความฉลาดหลักแหลม ในการวิเคราะห์กรั่นกรองข้อมูลที่ได้มาหรือมีอยู่นั้นให้เกิดประสิทธิภาพอย่างสูงสุด ด้วยองค์ความรู้ สติปัญญา หรือแม้แต่เทคโนโลยีที่ดีที่สุดกว่าใคร
- การทำกำไรจากความได้เปรียบด้านความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) โดยที่นักลงทุนต้องใช้ความพยายามในการที่จะควบคุมตนเองให้สามารถลงทุนได้อย่างมีเหตุมีผลอย่างสม่ำเสมอ เพื่อตัดเอาอารมณ์ซึ่งเป็นบ่อเกิดของความผิดพลาดในการลงทุนทิ้งออกไปจากสมการให้ได้มากที่สุด
โดยหากว่าคุณสามารถที่จะทำ 1 ใน 3 ข้อนี้ “ได้อย่างสม่ำเสมอ” การสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวก็อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต
คำถามก็คือ … แล้วคุณคิดว่าอะไรคือวิธีการที่เหมาะกับตัวคุณ หรือนักลงทุนส่วนใหญ่ที่สุดกัน?
วิธีการลงทุนที่ดีที่สุดสำหรับนักลงทุนส่วนใหญ่
ภาพที่ 1 : Charles D. Ellis ผู้คร่ำหวอดในแวดวงการลงทุนระดับโลก และผู้เขียนหนังสือการลงทุนระดับคลาสสิค Winning The Loser’s Game
แน่นอนว่าหลายคนอาจคิดว่าวิธีการที่จะช่วยให้สามารถทำกำไรได้เป็นอย่างดีก็คือการใช้ข้อมูลข่าวสารและสติปัญญาในการลงทุนที่เหนือกว่าผู้อื่นนั่นเอง (ถ้าไม่เชื่อคุณลองสังเกตจากหน้า Feed Facebook คุณก็ได้ครับ ส่วนใหญ่แล้วมันก็จะเกี่ยวกับเรื่องของข่าวสารสำคัญ, ข่าววงในการลงทุน, มุมมองของบรรดาเซียนๆ หรือแม้แต่วิธีการสูตรลับในการลงทุนต่างๆนั่นเอง)
อย่างไรก็ตาม Ellis ได้ให้มุมมองที่น่าสนใจเอาไว้ว่า หากคุณเลือกที่จะใช้วิธีการในข้อ 1 หรือการใช้ข้อมูลข่าวสารที่เหนือกว่าผู้อื่นนั้น ปัญหาก็คือมันยากมากๆที่คุณจะเป็นพวกแรกที่ได้ล่วงรู้ข่าวสารที่สำคัญก่อนใครอยู่เสมอ และข่าวสารที่คุณได้รับก็อาจเป็นสิ่งที่ไม่จริง ที่สำคัญก็คือมันมีราคาค่อนข้างแพงมากๆในการที่คุณจะได้เข้าถึงมันก่อนใคร
โดยหากว่าคุณเลือกที่จะใช้วิธีการในข้อที่ 2 นั้น ซึ่งก็คือการทำกำไรจากความได้เปรียบทางสติปัญญาแทน (หรือควบคู่กัน) ปัญหาหลักๆที่คุณจะต้องเจอก็คือการที่คุณไม่สามารถที่จะฉลาดกว่าใครได้ในทุกเรื่องและทุกเวลา เพราะโลกใบนี้จะยังคงมีคนที่เก่งกว่าคุณอยู่เสมอในสักที่หรือสักเวลานึง และที่สำคัญก็คือคุณอาจไม่สามารถรักษาระดับความฉลาดของคุณไว้ให้อยู่ในระดับชั้นนำได้ตลอดเวลาอีกด้วย (ลองนึกภาพตัวเองตอนแก่ๆกันดูครับ)
ดังนั้นแล้ว สำหรับ Ellis ที่ได้เคยผ่านร้อนผ่านหนาวและสำผัสกับสุดยอดนักลงทุนระดับโลกมาจนนับไม่ถ้วนนั้น เขาจึงได้แนะนำเอาไว้ว่าวิธีการในข้อที่ 3 ต่างหาก ที่จะช่วยให้นักลงทุนส่วนใหญ่มีโอกาสในการที่จะสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนได้อย่างสม่ำเสมอจริงๆ เนื่องจากการควบคุมสติและอารมณ์นั้น เป็นสิ่งที่สามารถทำได้ด้วยการสร้างระเบียบกฎเกณฑ์ในการลงทุนขึ้นมา, มีต้นทุนที่ไม่แพงเกินไป และยังเป็นสิ่งที่คุณน่าจะสามารถทำได้มากที่สุดในระยะยาวกันนั่นเอง
การลงทุนอย่างเป็นระบบ คือกุญแจสำคัญในการช่วยควบคุมสติและอารมณ์ในการลงทุน
จากที่ได้กล่าวมานั้น คุณจึงน่าที่จะเริ่มเข้าใจได้ว่าทำไมการลงทุนอย่างเป็นระบบ ด้วยระบบการลงทุนที่มีประสิทธิภาพนั้น จึงเป็นวิธีการที่น่าจะเหมาะสมที่สุดสำหรับนักลงทุนส่วนใหญ่กันบ้างแล้วนะครับ!
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการลงทุนอย่างเป็นระบบจะเป็นทางเลือกที่ทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่มีโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวที่สุดวิธีการหนึ่ง แต่การรักษาวินัยให้สามารถทำตามระบบในระยะยาวได้นั้น ก็ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่ยากมากๆสำหรับนักลงทุนจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว
ดังนั้นแล้ว คุณจะต้องพยายามสร้างมุมมองและทัศนคติที่จะช่วยส่งเสริมในการลงทุนอย่างเป็นระบบขึ้นมาให้ได้ ซึ่งสามารถทำได้ง่ายๆด้วยหลักคิด 3 ข้อ นั่นก็คือ
- การมีมุมมองว่าผลลัพธ์ของการลงทุนคือเรื่องของความน่าจะเป็น ไม่มีสิ่งที่แน่นอนในตลาดหุ้น จงอย่าคาดหวังหรือยึดติดกับความคิดของคุณมากเกินไป เพราะสุดท้ายแล้วตลาดนั้นถูกเสมอ
- การคาดหวังกับผลลัพธ์ของการลงทุนในระยะยาว โดยมองข้ามผลลัพธ์ในช่วงสั้นๆ เพื่อให้ความได้เปรียบในเชิงสถิติของกลยุทธ์การลงทุนที่คุณเลือกใช้นั้น นั้นได้มีโอกาสปลดปล่อยพลังของมันออกมาในระยะยาวเป็น 10-20 ปี
- การให้ความสำคัญกับกระบวนการ มากกว่าผลลัพธ์ของการลงทุนในแต่ละครั้ง (Process Over Outcome) โดยควรคำนึงอยู่ตลอดเวลาว่า สิ่งที่จะช่วยให้คุณสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวได้นั้น ไม่ใช่ผลกำไรหรือการขาดทุนในตอนนี้เท่านั้น แต่เป็น “นิสัย” หรือ “สันดาน” ในการลงทุนที่มีความถูกต้องและเหมาะสมต่างหาก ที่จะเป็นเครื่องมือและเกราะป้องกันภัยให้กับคุณได้อย่างยั่งยืนในการลงทุนนั่นเอง
ผมเองเชื่อว่าหากเราสามารถสร้างและรักษาทัศนคติเหล่านี้ขึ้นมาได้นั้น การลงทุนให้มีวินัยและมีระบบแบบแผน ก็จะน่าจะกลายเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นสำหรับเราทุกคน และนั่นย่อมหมายถึงโอกาสที่จะนำพาให้คุณสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนได้ระยะยาวด้วยเช่นกัน
ขอสติและความฉลาดทางอารมณ์ จงมีแด่เพื่อนๆนักลงทุนทุกคนในยามที่ตลาดผันผวนครับ 😀
