บทความพิเศษ

Berkshire Experience 2018 : ตะลุยถิ่นเนอบราสก้า เพื่อพบกับเทพเจ้าแห่งโอมาฮ่า Warren Buffett

Koedkao Peeratiyuth

สำหรับนักลงทุนทุกคนแล้ว การที่จะได้พบเจอกับเทพเจ้าแห่งโอมาฮ่า ผู้เป็นดั่งเสาหลักแห่งแนวทางการลงทุนเน้นคุณค่าหรือ Value Investing อย่าง Warren Buffett ด้วยตนเองนั้น ถือได้ว่าเป็นหนึ่งใน Bucket List ในใจของใครหลายๆคนเลยก็ว่าได้ ในวันนี้พวกเรา SiamQuant จึงอยากที่จะร่วมแชร์ประสบการณ์และแรงบันดาลใจซึ่งได้รับจาการเดินทางไปร่วมงานประชุมผู้ถือหุ้น Berkshire Harthaway ของ Warren Buffett ซึ่งเปรียบได้กับพิธีกรรมการแสวงบุญของนักลงทุนเชิงคุณค่าโดยละเอียด เรามาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ!

รู้ไว้ใช่ว่า … “เบิกเชอร์ ไม่ใช่ เบิกไชร์!!”

เอาล่ะครับ! ก่อนที่เราจะแชร์เส้นทางการเดินทาง รวมถึงบรรยากาศของงาน Berkshire Hathaway Annual  Meeting ให้ทุกท่านได้อ่านกันนั้น สิ่งหนึ่งที่เราอยากจะแชร์ก็คือการสะกดและออกเสียง Berkshire สำหรับเพื่อนๆนักลงทุนหลายๆท่าน เนื่องจากเราพบว่านักลงทุนไทยส่วนใหญ่ยังอ่านเสียงค่อนข้างแตกต่างกันไป โดยในบทความนี้เราจะขอออกเสียงว่า “เบิรกเชอร์” กันนะครับ โดยยึดจากสำเนียงสากลกัน ดังนั้นถ้าบางท่านรู้สึกว่าอ่านแล้วรู้สึกว่าชื่อมันแปลกๆหูก็ไม่ต้องรู้สึกแปลกใจกันนะครับ เพราะทางทีมงาน SiamQuant บางคนก็ต้องซ้อมออกสำเนียงกันสักนิดก่อนไปขอ VISA อเมริกาเช่นกัน เนื่องจากกลัวจะพูดกับท่านกงศุล หรือคนอเมริกันไม่รู้เรื่องครับ 55 (อย่างไรก็ตามถ้าพูดชื่อ Warren Buffett ไปนั้นคนอเมริกันแทบทุกคนจะร้องอ๋อทันทีครับ)

เคล็ดลับการเตรียมตัวเดินทางไป Omaha และการหาตั๋วเข้าร่วมงานประชุมผู้ถือหุ้น Berkshire Hathaway แบบประหยัด

SiamQuant-Bershire-Hathaway-2018
ภาพที่ 1 : ตั๋วเข้าร่วมงานประชุมผู้ถือหุ้น Berkshire Hathaway Annual Meeting 2018

โดยหลังจากที่พวกเราทุกคนมี VISA อเมริกากันแล้วนั้น สิ่งที่เราอยากจะแนะนำว่าต้องทำก่อนเลยไม่ใช่การหาเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นที่อเมริกาเพื่อซื้อหุ้น Berkshire กันหรอกนะครับ 55 (เพราะนั่นเป็นวิธีที่ตั๋วเข้าร่วมงานที่ดูจะมีต้นทุนสูงเกินไปสักหน่อย โดยตอนนี้หุ้น BRK Class A หุ้นเดียวก็ตีเป็นเงินไทยราว 10 ล้านบาทแล้ว ซึ่งเดี๋ยวเราจะบอกเคล็ดลับหาตั๋วถูกให้ในย่อหน้าถัดไป) แต่มันคือการจองที่พักและตั๋วเครื่องบินก่อนเลยต่างหากครับ!

สาเหตุก็เนื่องมาจากงานประชุมผู้ถือหุ้น Berkshire Hathaway นั้นถือได้ว่าเป็นงานเทศกาลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดประจำปีของเมือง Omaha รัฐ Nebraska ที่เป็นบ้านเกิดของคุณปู่ Warren Buffett งานหนึ่งเลยทีเดียว มันจึงทำให้ที่พักทั้งโรงแรมและ AirBnB ต่างๆแทบทั้งหมดในช่วงเวลานั้นจะถูกจองล่วงหน้าหลายเดือนไปจนเต็มเกือบหมดนั่นเอง นอกจากนั้นแล้ว สำหรับการเดินทางมาที่เมือง Omaha ด้วยเครื่องบินในช่วงเวลาแบบนี้นั้น หากไม่ได้ทำการจองตั๋วเครื่องบินล่วงหน้าอย่างน้อย 6 เดือนจะหาตั๋วราคาเหมาะสมได้ยากมากๆเลยทีเดียว เนื่องจากมีคนเป็นหมื่นๆเดินทางมาร่วมงานพร้อมๆกัน (งานประชุมมีทั้งหมด 3 วัน) ทำให้เที่ยวบินทั้งขาเข้าและขาออกจากเมือง Omaha จะแน่นขนัดเต็มไปหมด

อย่างไรก็ตาม เรายังมีอีกทางเลือกหนึ่งในการเดินทางมา Omaha นั่นคือการซื้อตั๋วเครื่องบินมาลงที่ Denver International Airport หรือ Chicago O’hare International Airport แล้วเช่ารถขับต่อมาที่ Omaha ได้ครับ ซึ่งทั้งสองเมืองนี้จะใช้เวลาขับรถมาที่ Omaha ประมาณ 8 ชั่วโมงคิดเป็นระยะทางประมาณ 800 กิโลเมตรครับ (สำหรับทีมงาน SiamQuant นั้น เนื่องจากพวกเราได้เข้าร่วมสัมมนางาน QuantCon 2018 ที่ New York กันมาก่อน พวกเราจึงเริ่มต้น Road Trip ด้วยการเช่ารถ Mini-Van ขับมาจากเมือง Boston รัฐ Massachusetts ข้ามผ่าน 7 รัฐใช้เวลาเดินทางทั้งหมด 5 วันมาที่เมือง Omaha รัฐ Nebraska รวมเป็นระยะทางกว่า 2,000 ไมล์ กันเลยทีเดียวครับ!!!)

โดยสำหรับเรื่องของการหาตั๋วเข้างานนั้น เคล็ดลับก็คือการหาตั๋วหลักพันที่หลุดมาจากผู้ถือหุ้นที่เอามาขายกันใน eBay ในช่วงเดือนเมษายน หรือถ้าอยากได้ถูกหน่อยก็ให้รอลุ้นตั๋วราคาหลักร้อยที่ทาง Berkshire นำมาขายแบบ Official ใน eBay ในช่วงเดือนพฤษภาคมหรือก่อนงานเริ่มขึ้นก็ได้ ซึ่งสาเหตุที่ทาง Berkshire นำมาปล่อยขายเองนั้นก็เพราะช่วงหลังๆเริ่มมีตั๋วผีในราคาแพงๆระบาด ทาง Berkshire เลยนำมาขายตัดราคาซะเองเลย แถมยังถือเป็นการโปรโมทการท่องเที่ยวให้เมือง Omaha ด้วย เรียกว่า Win-Win กันทุกฝ่ายครับ

SiamQuant-Alpha-Trip-2018
ภาพที่ 2 : “Nissan Quest รถแวนคู่ใจในการตะลุยอเมริกาของทีมงาน SiamQuant ทั้ง 7 ชีวิต”

Tip: การเช่ารถและขับรถที่สหรัฐอเมริกานั้นจำเป็นต้องมีใบขับขี่สากลโดยผู้ที่มีใบขับขี่อยู่แล้วสามารถไปทำได้ที่กรมขนส่งทางบกโดยมีค่าใช้จ่ายประมาณ 505 บาทครับ (รายละเอียดเอกสารที่ต้องใช้สามารถ Search หาใน Google ได้เลยครับ)

Berkshire Hathaway Annual Meeting มหกรรมการชุมนุมของนักลงทุนเชิงคุณค่า ที่ทุกคนตั้งตารอยิ่งกว่า Rock Concert!

ภาพที่ 3 : บรรยากาศ ณ  CenturyLink Center Omaha สถานที่จัดงานประชุมผู้ถือหุ้น Berkshire Hathaway Annual Meeting เวลา 3:00 น.

ในตอนนี้เราตัดภาพมาสู่วันงานกันต่อเลยดีกว่า โดยในวันงานประชุมผู้ถือหุ้น Berkshire เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2018 ที่ผ่านมานั้น นับว่าเป็นความโชคดี (ในความโชคร้าย) ของพวกเราทีมงาน SiamQuant ที่เกิดความผิดพลาดทางเทคนิคเรื่องที่พักในคืนก่อนงานประชุมผู้ถือหุ้นพอดี (ห้องพักที่จองไว้สกปรกมากพอๆกับไซต์ก่อสร้าง จนสายถึกอย่างเราไม่ไหวที่จะนอนและเข้าห้องน้ำ) ทำให้พวกเรามีความจำเป็นต้องกลายเป็น มนุษย์ Homeless ที่ยกขบวนมาสิงรอเข้างานที่หน้าประตู CenturyLink Center สถานที่ตัดงานกันตั้งแต่ตี 2 กว่าๆเลยทีเดียว แต่นั่นก็ทำให้พวกเราได้มาเห็นเรื่องที่น่าทึ่งเอามากๆ เพราะทั้งที่อากาศในคืนนั้นทั้งหนาวจนต่ำสิบองศาและมีลมพัดค่อนข้างแรง แต่ก็มีบรรดานักลงทุนมาต่อแถวนั่งรอคุณคุณปู่ Warren Buffett เทพเจ้าแห่งโอมาฮ่ากันที่หน้าประตูกันจำนวนมากแล้ว โดยแต่ละคนได้มีการเตรียมพร้อมด้วยทั้งเต็นท์ เก้าอี้และผ้าห่มกันตั้งแต่เที่ยงคืนเลยทีเดียว!!

ซึ่งถ้าหากพวกเราไปเริ่มต่อแถวเข้างานตอนเช้าๆตามแผนเดิมล่ะก็ เราคงจะอดเห็นหน้าคุณปู่กันแบบใกล้ๆเป็นแน่แท้ ดังนั้นหากเพื่อนๆนักลงทุนท่านใดอยากเห็นคุณปู่ Buffett และ Munger ชัดๆหน่อยล่ะก็ ขอแนะนำว่าไม่ควรไปต่อแถวช้ากว่าตี 5 เด็ดขาด!! เพราะการจองที่นั่งในห้องประชุมนั้นยึดหลักการแบบ “First Come, First Serve” แถมแฟนคลับของคุณปู่นั้นเหนียวแน่นและเยอะพอๆกับดารานักร้องชื่อดังเลยก็ว่าได้!!!


ภาพที่ 4 : หนาวแค่ไหนถามใจเธอดู! สภาพทีมงาน SiamQuant บางคนราวๆตี 5 ขณะนั่งรอคิวเข้างานประชุมผู้ถือหุ้น Berkshire Hathaway 2018

โดยหลังจากที่พวกเราได้เข้าต่อแถวยืนรอและนั่งรออยู่อย่างหนาวเหน็บอยู่นานหลายชั่วโมงนั้น หางแถวของทุกประตูทางเข้านั้นก็เริ่มยาวจนวนไปรอบๆสถานที่จัดงานเลยทีเดียวครับ จนในที่สุดก็ถึงเวลา 7 โมงเช้าที่ประตูเข้างานได้ถูกเปิดออกมาเป็นครั้งแรก ต้องบอกว่ามันเป็นความดีใจอย่างที่สุด เพราะถึงเวลาที่พวกเราจะได้เลิกเป็นมนุษย์ Homeless และได้สัมผัสกับความอบอุ่นกันเสียที และนี่ก็คือภาพที่น่าจะพอบรรยายถึงความป็อบปูล่าร์ของคุณปู่บัฟเฟตต์กันได้เป็นอย่างดีครับ


ภาพที่ 5 : บรรยากาศใน Stadium หลังจับจองที่นั่งกันจนเต็มแล้วภายในไม่ถึง 30 นาที ทั้งๆที่ “CenturyLink Center” สถานที่จัดงานนั้นมี Hall ความจุถึง 17,000 ที่นั่งและพื้นที่จัดงานนิทรรศการกว่า 190,000 ตารางฟุต แต่นั่นก็ก็ไม่ได้ทำให้บรรดานักลงทุนนั่งรอใน Hall กันอย่างไม่ย่อท้อตั้งแต่เวลา 7 โมงเช้าโดยแทบไม่ลุกไปไหน ก่อนที่ Buffett และ Munger จะเดินออกมาครั้งแรกในช่วงราวๆ 9 โมงเช้า

The Magic Moment ชั่วโมงต้องมนต์ของงานประชุมผู้ถือหุ้น Berkshire!


ภาพที่ 6 : บรรยากาศก่อน Warren Buffett และ Charlie Munger จะปรากฎตัว โดยมีการปล่อยวิดีโอคลิป Introduction ของงาน Berkshire  Annual Meeting ซึ่งเรียกเสียงหัวเราะจากบรรดาผู้ร่วมงาน และช่วยบรรเทาการรอคอยที่จะได้พบกับ Buffett ได้เป็นอย่างดี (สังเกตด้านหลังจอภาพจะเห็นได้ว่าคนเยอะมากขนาดต้องยอมไปนั่งหลังเวทีทั้งๆที่ไม่สามารถมองเห็นตัวเป็นๆของ Buffett และ Munger ได้เลย)

เมื่อถึงเวลาราวๆ 9 โมงเช้า ในที่สุดช่วงเวลาที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง หลังจากที่ Berkshire  Annual Meeting Introduction Video Clip ในปี 2018 ของ Berkshire ได้จบลงไปนั้น (วิดีโอดูตลกดี เพลินไปเลยครับ) ตามกำหนดการก็จะเข้าสู่ช่วงเวลาในการชี้แจงผลประกอบการ และถาม-ตอบปัญหาของผู้ถือหุ้นของ Berkshire กันเสียที

ซึ่งเมื่อบรรดาทีมงานผู้บริหารของ Berkshire รวมถึงแขกรับเชิญกิตติมาศักดิ์ต่างๆได้ออกมานั่งเตรียมตัวอยู่ทางด้านหน้าและข้างเวทีกันอย่างพร้อมเพรียงแล้วนั้น เสียงต่างๆในห้องประชุมก็ค่อยๆเงียบลงเพื่อรอคอยช่วงเวลสำคัญที่กำลังจะมาถึง และในที่สุดเมื่อคุณปู่ Warren Buffet และ Charlie Munger ค่อยๆก้าวเดินออกมาจากหลังม่านเวทีนั้น (คุณปู่ Charlie ดูชะโงกชะเงกมากครับปีนี้) เสียงปรบมือและการต้อนรับก็ได้ดังขึ้นอย่างอื้ออึงสนั่นไปทั้งฮอลล์ ก่อนที่คุณปู่ Warren จะแนะนำตัวเองและ Munger รวมถึงบรรดา Board of Director ของ Berkshire พร้อมกับเสียงตะโกนจากผู้ถือหุ้นว่า “Warren I Love Youuuuuuuuuu” ออกมา

… นี่คือช่วงเวลาที่เราเรียกมันว่า Berkshire  Magic Moment หรือชั่วโมงต้องมนต์ของงานประชุมผู้ถือหุ้นเบิรก์เชอร์เลยทีเดียวครับ!! มันคือช่วงเวลาและบรรยากาศที่ได้ตอบแทนการเดินทางที่ยาวไกล ความเหนื่อยล้าและการรอคอยของบรรดาผู้เข้าร่วมงานประชุมทุกๆคนก็ว่าได้ (เพราะเท่าที่สังเกตนั้น หลังจากช่วงเวลานี้หลายๆคนก็เริ่มทยอยกันเดินออกไปเข้าห้องน้ำ หรือหาอาหารว่างมานั่งกินและดูการประชุมกันไป หรือแม้กระทั่งเดินลงไปเที่ยวช็อปปิ้งในงาน Exibition ด้านล่างสถานที่ประชุมด้านล่างแทน) ซึ่งหากพวกเราไม่ได้มาสัมผัสมันเองในครั้งนี้แล้วล่ะก็ เราก็อาจจะไม่มีวันเข้าใจถึงเวทย์มนต์ที่ทำให้งานประชุมผู้ถือหุ้นในแต่ละปีนั้น เปรียบดั่งการแสวงบุญของเหล่านักลงทุนเชิงคุณค่าสักเท่าไหร่นัก

เราอยากจะบอกว่า มันคือช่วงเวลาที่อาจทำให้คุณต้องน้ำตาไหลโดยไม่รู้ตัว หากว่า Warren Buffett คือคนที่ทำให้คุณก้าวเข้าสู่ตลาดหุ้นและกลายเป็นนักลงทุนที่หลงไหลในตลาดหุ้นเป็นชีวิตจิตใจ นี่คือช่วงเวลาหนึ่งในชีวิตที่คุณควรหาโอกาสมาสัมผัสมันด้วยตนเองให้ได้ครับ!


ภาพที่ 7 : ภายในงานประชุมผู้ถือหุ้น Berkshire Hathaway นั้น เรายังได้เห็น Bill Gates CEO ของบริษัท Microsoft (อายุ 62 ปี) เพื่อนรักของคุณปู่ Buffett มานั่งเป็น Board of Director คอยให้กำลังใจคุณปู่ที่แถวหน้าติดเวทีตลอดทั้งวัน

ความเฉียบขาดและอารมณ์ขันของ Warren Buffett และ Charlie Munger คือเสน่ห์ของงานประชุมผู้ถือหุ้น Berkshire Hathaway


ภาพที่ 8 : ภาพจากที่นั่งในระยะใกล้ซึ่งทีมงาน SiamQuant โชคดีได้มีโอกาสนั่งดูคุณปู่ Warren Buffett และ Charlie Munger พูดคุยตอบคำถามอย่างใกล้ชิด

สำหรับอรรถรสในการประชุมปีนี้นั้น ความสามารถในการตอบคำถามของคุณปู่ Buffett ก็ยังคงน่าทึ่งเป็นอย่างมาก เพราะ Buffett สามารถให้คำตอบกับทุกคำถามได้เกือบจะทันที โดยแทบไม่มีการให้คนถามต้องถามซ้ำ และถึงแม้ว่าคำถามจากผู้ชมที่ส่งเข้ามาทั้งหมดนั้นจะถูกคัดกรองมาจากทีมงานก่อนหน้าอยู่แล้ว แต่คุณปู่ทั้งสองก็เลือกที่จะไม่แอบดูคำถามเหล่านั้นจนเป็นธรรมเนียมของการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปีไปแล้ว

โดยช่วงที่เปิดให้ผู้ชมได้ถามคำถามนั้นตั้งแต่ 9.00 ถึง 12.00 และต่อในตอนบ่ายจาก 13.00 ถึง 15.30 นับเป็นเวลาการตอบคำถามอย่างละเอียดกว่าเกือบ 7 ชั่วโมง ซึ่งถือว่าสุดยอดจริงๆสำหรับคุณปู่ Buffett ที่อายุ 87 และคุณปู่ Charlie Munger ที่อายุกว่า 94 ปีแล้ว!! ซึ่งเมื่อได้สัมผัสกับความรอบรู้และความสนุกสนานของนักปราชญ์แห่ง Omaha ทั้งสองท่านนี้แล้ว เราก็ไม่แปลกใจเลยที่เคยมีคนเสนอราคาในการประมูลสูงถึง 3.3 ล้านเหรียญสหรัฐ (ของการประมูลปี 2018) เพียงเพื่อที่จะได้ทานข้าวและนั่งพูดคุยกับคุณปู่ Warren Buffett เพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น

สำหรับเรื่องอารมณ์ขันของคุณปู่ Warren Buffett และ Charlie Munger นั้นถือว่าเป็นสิ่งที่ชาวอเมริกันนั้นรู้จักเป็นอย่างดี โดยคลิปวีดีโอที่นำมาเปิดในช่วงต้นของงานนั้นจะมีทั้งคลิบโฆษณาของบริษัทต่างๆที่ Berkshire นั้นถือหุ้นอยู่และการแซวจิกกัดตัว Warren Buffett, Charlie Munger และนักลงทุนกันอย่างสนุกสนานเลยทีเดียว โดยหนึ่งในคลิปวิดีโอที่พวกเราชื่นชอบที่สุดนั้น คือการโฆษณาบริษัทที่ปรึกษาการลงทุนสมมติที่ชื่อว่า Hindsight Financial (Link: https://youtu.be/DWru4JhpYWU) ซึ่งถือว่าฮาจนเกือบตกเก้าอี้กันเลยทีเดียว ซึ่งอารมณ์ขันเหล่านี้ก็ได้ถูกสอดแทรกอยู่ภายในการตอบคำถามผู้ถือหุ้นแทบตลอดทั้งงานเลยทีเดียว โดยเวลาคุณปู่ Buffett ตอบคำถามจนจบแล้ว Buffett ก็มักจะหันไปหา Charlie Munger แล้วถามว่า “Anything to Add? Charlie?” คุณปู่ Charlie มักจะพูดประโยคสั้นๆที่จะเรียกเสียงฮาจากทั้ง Hall ได้แทบทุกครั้ง และนี่ก็คืออารมณ์ขันที่สอดแทรกอยู่ภายในงานประชุมผู้ถือหุ้น Berkshire จนกลายเป็นเสน่ห์เฉพาะตัวของงานนี้ไปแล้ว


ภาพที่ 9 : ภาพคุณปู่ Warren Buffett และ Charlie Munger ระยะใกล้ที่สุดที่ทีมงาน SiamQuant สามารถถ่ายมาได้จากการไปนั่งอยู่แถวหน้าสุดของเวที

วัฒนธรรมองค์กรแบบครอบครัว คือขุมพลังเบื้องหลัง Berkshire Hathaway

นอกจากความสามารถและอารมณ์ขันของ Buffett และ Munger แล้ว สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือเรายังได้เห็นวัฒนธรรมองค์กรหรือ Culture ของบริษัท Berkshire Harthaway ที่ปฏิบัติกับบริษัทในเครือราวกับเป็นญาติพี่น้องโดยมีการแต่งเพลงยกย่องเหล่า “Berkshire Manager” ซึ่งก็คือ CEO ของบริษัทต่างๆที่ Berkshire เข้าไปถือหุ้นจนมีอำนาจควบคุมนั่นเอง โดยสังเกตได้ว่าการตัดสินใจเข้าลงทุนในแต่ละกิจการของ Warren Buffett นั้นมาจากการตัดสินใจที่เน้นผลตอบแทนระยะยาวจากการดำเนินการของธุรกิจเป็นหลักจริงๆ และไม่ได้มีการเข้าไปแทรกแซงการบริหารจัดการของบรรดา CEO เดิมๆ แต่จะเน้นไปที่การเสริมจุดแข็งของธุรกิจนั้นๆด้วย Connection ของ Berkshire มากกว่า

อีกอย่างหนึ่งทีน่าสนใจและน่าทึ่งเป็นอย่างมากก็คือ สำนักงานใหญ่ของ Berkshire Harthaway ที่เมือง Omaha นั้นมีพนักงานที่ทำงานร่วมกับ Warren Buffett และ Charlie Munger อยู่เพียง 24 คนเท่านั้นและ 24 คนนี้ก็เป็นทีมงานเดิมๆมากว่า 10 ปีแล้ว (อย่างไรก็ตามบริษัทที่อยู่ในเครือ Berkshire Harthaway นั้นมีการจ้างงานถึงกว่า 360,000 คนทั่วโลก) โดย Warren Buffett นั้นได้กล่าวอย่างภาคภูมิใจว่า

“กลุ่มคนกลุ่มนี้ต้องดูแลเรื่องข้อกำหนดต่างๆกับทั้ง SEC และหน่วยงานรัฐ, ส่งเอกสารเกี่ยวกับ Federal Income Tax Return กว่า 30,700 หน้า, ดูแลจัดการเอกสารการจ่ายภาษีรัฐกว่า 3,530 หน้า, ต้องคอยตอบคำถามนับไม่ถ้วนของผู้ถือหุ้นและสื่อมวลชน, จัดเตรียมงานประชุมผู้ถือหุ้นที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ, จัดตารางประชุมบอร์ด, หาข้าวให้ผมกิน รวมถึงคอยตรวจข้อเท็จจริงในจดหมายผู้ถือหุ้นนี้ด้วย และจริงๆยังมีอีกเยอะ”

คุณปู่ Buffett เรียกคนกลุ่มนี้ว่า “Miracle Worker” และความสำเร็จหลายๆอย่างที่ชาวโลกได้เห็นคงจะไม่เกิดขึ้นถ้าไม่มีคนกลุ่มนี้!

SiamQuant-Bershire-Hathaway-2018-08

ภาพที่ 10 : ทีมงาน Miracle Worker ทั้ง 24 คนของ Berkshire Hathaway Omaha Head Office ซึ่งส่วนใหญ่แล้วแทบจะเป็นผู้หญิงแทบทั้งหมด นี่อาจเป็นเคล็ดลับบ้างอย่างของ Warren Buffett ก็เป็นได้! (Source ของภาพนำมาจาก Google)

งาน Open House และ Rare Items ของบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลก ที่หาจากที่ไหนไม่ได้นอกจากงานประชุม Berkshire Hathaway

นอกจากการได้มีโอกาสนั่งฟังคุณปู่ Warren Buffett ตอบคำถามกันอย่างจุใจตั้งแต่ 9 โมงถึงบ่าย 3 ครึ่งแล้ว ในบริเวณด้านนอกหอประชุมก็ยังมีการจัดนิทรรศการสินค้าจากบริษัทที่ทาง Berkshire ถือหุ้นอยู่อีกกว่า 40 บริษัท โดยภาพต่อไปนี้เป็นตัวอย่างบูทของบริษัทยักษ์ใหญ่บางส่วน ซึ่งหากมีโอกาสแล้วล่ะก็ เราอยากจะขอให้คุณได้ไปลองเดินเล่นและทดลองสินค้ากันดูสักครั้ง เชื่อว่าจะมีหลายบริษัทที่คุณเคยใช้สินค้าของพวกเขาอยู่โดยที่อาจไม่รู้ตัวว่ามันเป็นของ Berkshire เลยก็เป็นได้!


ภาพที่ 11 : จุด Information บริเวณทางเข้าสู่ Exhibition Hall ชั้น 1


ภาพที่ 12 : Booth ของบริษัท See  Candies บริษัทผลิตช็อคโกแลคซึ่งถือเป็นหนึ่งในการลงทุนที่ประสบความสำเร็จที่สุดของ Warren Buffett


ภาพที่ 13 : Booth ของบริษัท Coca Cola บริษัทน้ำอัดลมที่อยู่คู่มนุษยชาติมามากกว่า 100 ปี โดยที่คุณปู่ Warren Buffett นั้นยังคงดื่ม Coke อยู่ทุกวัน !!! (เป็นความสามารถเฉพาะตัวห้ามเลียนแบบนะครับ)


ภาพที่ 14 : Booth ของ NETJETS ธุรกิจ Ownership Sharing เครื่องบิน Jet ส่วนตัวโดยให้ลูกค้าสามารถซื้อเพียงส่วนหนึ่งของบริการเครื่องบิน Jet ส่วนตัวได้ในรูปแบบคล้ายหุ้น ที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมงานได้เข้าไปลองดู Cabin ผู้โดยสารแบบใกล้ชิด


ภาพที่ 15 : Booth ของบริษัท Duracell บริษัทผู้ผลิต Battery ที่รู้จักกันดีในบ้านเราซึ่ง Berkshire Harthaway ได้เข้าไปซื้อกิจการทั้งหมดเป็นเงินกว่า 47,000 ล้านเหรียญสหรัฐในปลายปี 2014 จาก Procter & Gamble (P&G)


ภาพที่ 16 : Booth ของ Kraft Heinz บริษัทอาหารและเครื่องดื่มที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก และเจ้าของผลิตภัณฑ์อาหารกว่า 80 ชนิด  ซึ่งเกิดจากการควบรวมในปี 2013 โดย Berkshire Harthaway และ 3G Capital แบ่งกันถือครองคนละครึ่ง

และนี่ก็คือส่วนหนึ่งของตัวอย่างบูธของธุรกิจในเครือของ Berkshire Harthaway มีการลงทุนอยู่นั่นเอง โดยสำหรับใครที่ต้องการซื้อของฝากหรือของที่ระลึกที่เป็น Limit Edition สำหรับ Shareholder  Meeting นั้นแนะนำว่าหากไปกันหลายคนให้แบ่งหน้าที่กันครับ โดยกลุ่มนึงเฝ้าที่นั่งใน Hall ไว้และอีกกลุ่มนึงผลัดกันลงไปเดินที่ Booth ต่างๆ เพราะว่าของสะสมของแต่ละบริษัทขายหมดเร็วจริงๆครับ!

Buffett Legacy ตำนานแห่งเทพเจ้าแห่งโอมาฮ่า ที่จะฝากไว้ในโลกการลงทุนตลอดไป!


ภาพที่ 17 : หน้าจอจับภาพหนูน้อย Daphne อายุ 8 ขวบจาก New York หนึ่งในผู้ถือหุ้น Berkshire Hatthay ที่ถามคำถามได้กระแทกใจจน คุณปู่ Warren Buffett ถึงกับอุทานและหัวเราะว่า “You’re killing me daphne!” แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่าง Berkshire และครอบครัวของผู้ถือหุ้นได้เป็นอย่างดี

สุดท้ายนี้ สิ่งที่เราอยากจะฝากไว้ก็คือความรู้สึกที่พวกเราสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่า Warren Buffett จะกลายเป็นตำนานและแรงบันใจให้กับนักลงทุนทั่วโลกตลอดไปอีกหลายร้อยปี

โดยพวกเราได้สังเกตเห็นอยู่เสมอว่า ผู้ที่เข้าร่วมงานประชุมผู้ถือหุ้นทุกๆคนนั้นล้วนแล้วแต่มีมิตรไมตรีให้กันราวกับเป็นดั่งครอบครัวที่ผูกพันธ์แม้จะไม่เคยรู้จักกันมาก่อน (ซึ่งความเป็นหนึ่งเดียวกันนี้ทำให้เราประทับใจมากๆครับ) และผู้ที่ได้รับเกียรติให้ยืนถามคำถามด้วยตนเองหลายๆท่านนั้น ก็มักเริ่มต้นด้วยการกล่าวขอบคุณและชื่นชม Warren Buffett ที่ทำให้พวกเขาและลูกหลานนั้น “Filthy Rich” (หรือแปลตรงๆว่า “รวยสัสๆ” ขออภัยที่หยาบคาย แต่เราพยายามแปลให้ได้อรรถรสตามตรงนะครับ 55) นอกจากนี้แล้ว เรายังเห็นได้อย่างชัดเจนว่า ผู้ถือหุ้นแต่ละท่านที่ออกมาถามคำถามเหล่านั้น ล้วนแล้วแต่มีความภาคภูมิใจเป็นอย่างมากที่ได้บอกถึงเหตุผลและจำนวนปีที่พวกเขาได้ถือหุ้น Berkshire Hathaway มาอย่างเปิดเผย ซึ่งภาพบรรยากาศเหล่านี้สะท้อนให้พวกเราได้่เห็นถึงความเคารพชื่นชม, อิทธิพลที่ Buffett และ Munger มีต่อชีวิตของผู้ถือหุ้น รวมถึงพลังของธุรกิจที่ Berkshire Hathaway ได้ส่งผลต่อเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาได้เป็นอย่างดี

ซึ่งประสบการณ์ทั้งหมดที่พวกเราทีมงาน SiamQuant ได้รับจากงานวันนี้นั้น นับว่าคุ้มค่าเป็นอย่างยิ่งกับการยกขบวนทีมงานเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาถึงที่นี่ เพราะนี่คือการจุดประกายสร้างพลังและแรงบันดาลใจใหม่ๆให้กับทีมงานของเราทุกคน เพื่อที่จะกลับมาเดินหน้าในการวิจัยค้นคว้าระบบการลงทุนที่จะสามารถเอาชนะตลาดหุ้นอย่างยั่งยืน รวมถึงช่วยสร้างความมั่งคั่งให้กับนักลงทุนหลายๆคนอย่างที่ Warren Buffett และ Charlie Munger ได้เคยทำเอาไว้

หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเพื่อนๆทุกคนจะมีโอกาสได้สัมผัสถึงบรรยากาศเหล่านี้ และพบกับบุคคลที่จะกลายเป็นตำนานแห่งการลงทุนไปอีกหลายร้อยปีด้วยตัวของคุณเองกัน อย่างที่พวกเราได้บุกตลุยไปถึงเนอบราสกาเพื่อพบกับเทพเจ้าแห่งโอมาฮา Warren Buffett ผู้ที่ได้จารึกประวัติศาสตร์ในการสร้างความมั่งคั่งในตลาดหุ้น ด้วยหลักการลงทุนเชิงคุณค่า Value Investing ที่จะมีประโยชน์กับนักลงทุนตลอดไป

ด้วยความเคารพต่อเทพเจ้าแห่งโอมาฮ่าเป็นอย่างสูง!

ทีมงาน SiamQuant ขอขอบคุณทุกท่านที่อ่านกันจนจบ แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้าครับ 😀


ภาพที่ 18 : ทีมงาน SiamQuant ในงาน Berkshire Hathaway Annual Meeting 2018

[agni_gallery img_url=”19370,19373,19371,19374,19435,19445,19446,19442,19443,19441,19419,19440,19439,19438,19429,19377,19378,19416,19431,19436,19379,19428,19382,19383,19427,19424,19423,19422,19421,19414,19412,19411,19410,19409,19408,19407,19405,19403,19402,19401,19400,19399,19398,19397,19396,19394,19393,19392,19391,19390,19389,19388,19387,19386,19385,19381,19380,19432″ img_size=”custom” img_size_custom=”680×420″ img_link=”3″ gap=”2″ gallery-grid-layout=”masonry”]

Thanadon Praphutikul
ทีมงานวิจัยระบบการลงทุน SiamQuant Alpha Researcher
เริ่มต้นการลงทุนตั้งแต่เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 1 ด้วยความต้องการเอาชนะตลาด โดยมีจุดเปลี่ยนมาสู่การลงทุนอย่างเป็นระบบ เนื่องจากช่วยให้เราสามารถพิสูจน์ถึงสิ่งต่างๆได้ด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ที่จับต้องได้จริง ^^

 


Mod mangmaoclub.com
ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ แมงเม่าคลับ และศูยน์วิจัยออกแบบระบบการลงทุน SiamQuant ซึ่งหลงไหลในการลงทุนอย่างเป็นระบบเชิง Quantitative & Systematic Trading

Write A Comment